สำนวนคลุมถุงชน

รู้จักสำนวนคลุมถุงชน ที่มาและความหมาย

สำนวนไทยหมวดหมู่ ค. คลุมถุงชน

คลุมถุงชน หมายถึง

สำนวน “คลุมถุงชน” หมายถึง การแต่งงานที่ถูกกำหนดขึ้นโดยพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ โดยที่ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงไม่มีโอกาสเลือกคู่ครองเอง อาจไม่ได้เกิดจากความรักหรือความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย แต่มักเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของครอบครัว เช่น การรักษาฐานะ ความสัมพันธ์ หรือผลประโยชน์ทางสังคม เปรียบเหมือนการนำไก่ไปชนโดยคลุมถุงไว้ก่อน พอถึงเวลาก็ต้องสู้กันโดยไม่มีทางเลือก ซึ่งสะท้อนถึงการแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย กล่าวคือ “ลักษณะการแต่งงานที่ผู้ใหญ่จัดการให้ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้จักคุ้นเคยหรือรักกันมาก่อน” นั่นเอง

ที่มาและความหมายคลุมถุงชน

ที่มาของสำนวน

สำนวนนี้มีที่มาจากวิถีชีวิตและขนบธรรมเนียมการแต่งงานในอดีตของไทยและหลายวัฒนธรรมในโลก โดยเฉพาะในยุคที่พ่อแม่หรือผู้ใหญ่ในครอบครัวเป็นผู้กำหนดคู่ครองให้ลูกหลาน โดยที่ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงไม่มีโอกาสเลือกเอง

ในอดีตการแต่งงานในสังคมไทย โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีฐานะและชนชั้นสูง มักถูกกำหนดโดยพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ เพื่อรักษาฐานะทางสังคมหรือผลประโยชน์ทางการเมือง ขณะที่ชาวบ้านทั่วไปมักมีอิสระในการเลือกคู่มากกว่า

พ่อค้าฮอลันดาที่เดินทางมาอยุธยาในสมัยพระเจ้าทรงธรรมเคยบันทึกว่า

“การแต่งงานของชาวสยามต้องได้รับความเห็นชอบจากพ่อแม่และมีการแลกเปลี่ยนของมีค่า แม้ไม่มีพิธีทางศาสนา แต่การแต่งงานแบบนี้สะท้อนถึงการควบคุมของผู้ใหญ่”

สำนวนนี้ยังเชื่อกันอีกว่ามีที่มาจากบ่อนไก่ในอดีต ก่อนนำไก่ไปชนกัน เจ้าของจะใช้ถุงคลุมไก่ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มันตื่นตกใจ บางครั้งเจ้าของไก่ที่รีบร้อนอาจท้าชนไก่โดยไม่ทันได้เห็นรูปร่างของอีกฝ่าย เมื่อเปิดถุงออก ไก่ทั้งสองก็ต้องสู้กันโดยไม่มีทางเลือก เปรียบได้กับชายหญิงที่ถูกจับแต่งงานกันโดยไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จึงเกิดสำนวนนี้ที่ใช้หมายถึงการแต่งงานที่ถูกกำหนดโดยผู้ใหญ่ โดยที่คู่สมรสไม่มีโอกาสเลือกเอง

การแต่งงานแบบคลุมถุงชนเกิดขึ้นบ่อยในครอบครัวชนชั้นสูงและสังคมที่ให้ความสำคัญกับ เกียรติยศ วงศ์ตระกูล และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจหรือการเมือง ผู้ใหญ่จึงมักเลือกคู่ครองให้ลูกหลานตามความเหมาะสม มากกว่าความรักหรือความพึงพอใจของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเอง

ปัจจุบันการแต่งงานแบบคลุมถุงชนลดลงมาก เนื่องจากค่านิยมเรื่องความรักและสิทธิในการเลือกคู่ครองเปลี่ยนไป แต่สำนวนนี้ยังคงถูกใช้ในความหมายเชิงเปรียบเทียบกับ สถานการณ์ที่ถูกบังคับให้ทำบางอย่างโดยไม่มีทางเลือก

ตัวอย่างการใช้สำนวน

  • พ่อแม่ของสมชายต้องการให้เขาแต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนสนิทเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ทางธุรกิจ แต่สมชายไม่เคยรู้จักฝ่ายหญิงมาก่อน เขาจึงบ่นว่า “นี่มันแต่งงานแบบคลุมถุงชนชัด ๆ ผมยังไม่ได้เลือกเองเลย” (สะท้อนการแต่งงานที่ถูกกำหนดโดยผู้ใหญ่โดยไม่มีความสมัครใจ)
  • นางสาวศรีถูกครอบครัวบังคับให้แต่งงานกับชายที่พ่อแม่เลือกให้ แม้ว่าเธอจะไม่ได้รักเขาเลย เธอจึงบอกเพื่อนว่า “ฉันไม่อยากแต่งงานแบบคลุมถุงชน อยากเลือกคนที่ตัวเองรักมากกว่า” (แสดงถึงความไม่พอใจต่อการแต่งงานที่ถูกกำหนดไว้แล้ว)
  • นักเรียนในโรงเรียนถูกบังคับให้เลือกชมรมที่อาจารย์กำหนดให้โดยไม่มีสิทธิ์เลือกเอง นักเรียนบางคนจึงบ่นว่า “นี่มันเลือกชมรมแบบคลุมถุงชน เราไม่มีโอกาสเลือกในสิ่งที่ชอบเลย” (ใช้ในเชิงเปรียบเทียบกับการถูกบังคับให้เลือกบางสิ่งโดยไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเอง)
  • บริษัทแห่งหนึ่งแต่งตั้งผู้บริหารคนใหม่ โดยไม่ได้เปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็น พนักงานจึงวิจารณ์ว่า “การแต่งตั้งแบบนี้ก็เหมือนคลุมถุงชน เราไม่มีสิทธิ์เลือกเลย” (ใช้เปรียบเปรยถึงการแต่งตั้งที่ถูกกำหนดล่วงหน้าโดยไม่มีการเปิดโอกาสให้เลือก)
  • คู่รักหนุ่มสาวต้องการแต่งงานกันเพราะความรัก แต่พ่อแม่ของฝ่ายหญิงกลับคัดค้านและต้องการให้เธอแต่งงานกับลูกชายของคนรู้จัก เธอจึงกล่าวว่า “ฉันไม่อยากให้ชีวิตคู่ของฉันเป็นแบบคลุมถุงชน” (สะท้อนการต่อต้านการแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย)

by