สำนวนไทยหมวดหมู่ ถ. ถ่มน้ำลายรดฟ้า
ถ่มน้ำลายรดฟ้า หมายถึง
สำนวน “ถ่มน้ำลายรดฟ้า” หมายถึง การพูดจาดูหมิ่นหรือกล่าวร้ายผู้อื่นอย่างรุนแรง โดยไม่รู้ว่าตนเองจะได้รับผลร้ายกลับคืนมาในที่สุด เปรียบกับการถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า สุดท้ายน้ำลายนั้นย่อมตกใส่ตัวเอง สะท้อนว่าการพูดไม่ดีใส่ผู้อื่นโดยไม่ยั้งคิด อาจย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองได้ในภายหลัง เป็นสำนวนเตือนใจเรื่องการใช้คำพูดและการกระทำที่ไม่สมควรต่อผู้อื่น กล่าวคือ “การประทุษร้ายต่อสิ่งที่สูงกว่าตน ตัวเองย่อมได้รับผลร้ายเอง” นั่นเอง

ที่มาของสำนวน
มาจากการเปรียบเทียบพฤติกรรมของคนที่ถ่มน้ำลายขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งเป็นทิศทางที่ตรงข้ามกับแรงโน้มถ่วง สุดท้ายแล้วน้ำลายก็จะตกกลับมาถูกตัวเอง ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
สำนวนนี้ปรากฏในนิยายสามก๊ก ตอนจิวยี่แค้นขงเบ้งจนกระอักเลือดตาย เพราะจิวยี่พยายามกำจัดขงเบ้งหลายครั้ง แต่ขงเบ้งก็เล็ดรอดภยันตรายมาได้ทุกครั้ง ด้วยสติปัญญาความสามารถที่เหนือกว่าจิวยี่ทุกประตู จนจิวยี่ต้องรำพันออกมาว่า… “เมื่อฟ้าส่งข้ามาเกิดแล้ว เหตุไฉนถึงส่งขงเบ้งมาเกิดด้วย” จิวยี่จึงเหมือนถ่มน้ำลายรดฟ้า ที่พ่นน้ำลายขึ้นฟ้าทีไร น้ำลายก็หล่นลงมาเปรอะหน้าตัวเองทุกครา การถ่มน้ำลายรดฟ้า จึงกลายมาเป็นสำนวนนี้
สำนวนนี้จึงถูกใช้เพื่อเปรียบเปรยการพูดจาดูหมิ่น ดูแคลน หรือใส่ร้ายผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่สูงกว่า หรือผู้ที่ไม่ควรถูกกล่าวร้าย และในท้ายที่สุด สิ่งที่พูดหรือทำอาจย้อนกลับมาทำร้ายผู้พูดเอง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เป็นคำเตือนให้ระวังการใช้คำพูดและการกระทำต่อผู้อื่น เพราะสิ่งที่เริ่มต้นจากความไม่ยั้งคิด อาจกลายเป็นผลกรรมที่ย้อนคืนมาสู่ตัวเอง
ตัวอย่างการใช้สำนวน
- เขาชอบโพสต์ด่าเจ้านายลงโซเชียล ทั้งที่ยังทำงานอยู่บริษัทเดิม สุดท้ายโดนฝ่ายบุคคลเรียกไปคุยเรื่องพฤติกรรม “แบบนี้มันก็ไม่ต่างจากถ่มน้ำลายรดฟ้า สุดท้ายก็เดือดร้อนตัวเอง” (การพูดโจมตีคนที่ยังมีอำนาจเหนือกว่า ทำให้ตัวเองกลับเป็นฝ่ายเสียหายในที่สุด)
- พอสอบติดแล้ว เขาไปพูดจาดูถูกครูที่เคยตำหนิเรื่องนิสัย สุดท้ายกลับต้องมาขอใบรับรองจากครูคนนั้นเพื่อใช้เรียนต่อ (แสดงถึงพฤติกรรมที่ดูหมิ่นผู้อื่น แล้วต้องย้อนกลับมาพึ่งพา เป็นเหมือนถ่มน้ำลายรดฟ้า)
- ตอนนั้นด่าเพื่อนเรื่องการแต่งตัวไม่เหมาะสมต่อหน้าคนอื่น พอวันงานตัวเองกลับใส่ชุดผิดระเบียบยิ่งกว่าเขาอีก “ก็สมแล้ว ถ่มน้ำลายรดฟ้า ชัด ๆ เลย”
(สิ่งที่เคยตำหนิคนอื่น กลับเกิดกับตัวเองในภายหลัง) - นักการเมืองคนหนึ่งเคยพูดจาวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นแรง ๆ ว่าไร้ความสามารถ แต่พอมีโอกาสบริหารเอง กลับทำพลาดซ้ำรอยเดิมทั้งหมด (การตำหนิคนอื่นโดยไม่ไตร่ตรอง กลายเป็นการย้อนรอยความผิดตัวเอง เหมือนถ่มน้ำลายรดฟ้า)
- เขาเคยหัวเราะเยาะคนที่เรียนไม่จบ แต่ไม่กี่ปีต่อมา เขากลับต้องดรอปเรียนเพราะผลการเรียนตกต่ำ (การดูถูกคนอื่นโดยลืมมองตัวเอง กลับกลายเป็นบทเรียนที่ย้อนคืนมา เหมือนถ่มน้ำลายรดฟ้า)