คำพังเพยไทยหมวดหมู่ พ. พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง
พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง หมายถึง
คำพังเพย “พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง” หมายถึง การพูดโดยไม่ระวังหรือพูดมากเกินไป อาจทำให้เสียประโยชน์หรือโอกาสสำคัญ ในขณะที่การนิ่งสงบและรอบคอบมีค่าและช่วยรักษาผลประโยชน์ไว้ เปรียบเสมือนการพูดมากเหมือนเงินสองไพเบี้ยที่มีค่าเล็กน้อย ส่วนการนิ่งพูดน้อยและรอบคอบเหมือนทองคำตำลึงที่มีค่ามาก กล่าวคือ “พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ นิ่งไว้ดีกว่า” นั่นเอง

ที่มาของคำพังเพย
จากการเปรียบเทียบคำพูดกับมูลค่าเงินและทองสมัยก่อน “ไพเบี้ย” เป็นเงินเล็กน้อย ส่วน “ตำลึงทอง” เป็นทองคำซึ่งมีค่ามาก การพูดจาโดยไม่รอบคอบ หรือพูดมากเกินไปเหมือนกับจ่ายเพียงสองไพเบี้ย เพื่อแลกกับการเสียตำลึงทอง คือสิ่งมีค่าอย่างมาก การพูดมากโดยไม่ระวังอาจทำให้เปิดเผยตัวเอง เสียโอกาส หรือถูกคนอื่นเอาเปรียบ
คำพังเพยนี้สอนให้รู้จักคุณค่าของความนิ่งสงบและการพูดน้อย คนที่ควบคุมคำพูดของตนเองได้ จะเหมือนถือทองเป็นตำลึงอยู่ในมือ ไม่เสียไปตามความวู่วามหรืออารมณ์ชั่วขณะ การนิ่งและรอบคอบทำให้สามารถรักษาผลประโยชน์และตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด และสะท้อนถึงลักษณะของผู้มีสติ รอบคอบ และมีเหตุผล
ตัวอย่างการใช้คำพังเพย
- พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นตระหนกกับข่าวลือ เขายังคงตั้งสติ ฟังอย่างรอบคอบ และตอบเพียงสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น
- เธอเลือกใช้เวลาไตร่ตรองก่อนแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม เพราะรู้ว่านิ่งเสียตำลึงทอง การพูดโดยไม่คิดอาจทำให้เสียเครดิตและโอกาสสำคัญ
- เมื่อมีความขัดแย้งเกิดขึ้นในทีม เขายังรักษาความสงบและเลือกสื่อสารอย่างรอบคอบ พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง แต่ทุกคำล้วนมีคุณค่า ไม่พูดเกินจำเป็น
- ก่อนที่จะตอบคำถามจากผู้บังคับบัญชา เธอใช้เวลาพิจารณาข้อมูลทั้งหมดและเลือกพูดเพียงส่วนสำคัญ เพราะตระหนักดีว่าพูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง
- เขาเข้าใจว่าการรีบแสดงความคิดเห็นในทุกเรื่องอาจสร้างปัญหา จึงเลือกพูดอย่างระมัดระวังและรอบคอบ พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง เพื่อรักษาความมั่นคงและเครดิตของตน

