สุภาษิตไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ต้องเอาด้วยคาถา

รู้จักสุภาษิตไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ต้องเอาด้วยคาถา ที่มาและความหมาย

สุภาษิตไทยหมวดหมู่ ม. ไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ต้องเอาด้วยคาถา

ไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ต้องเอาด้วยคาถา หมายถึง

สุภาษิต “ไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ต้องเอาด้วยคาถา” หมายถึง เมื่อไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้ด้วยวิธีการปกติ ก็ต้องใช้วิธีการที่ซับซ้อน หรือวิธีการที่ผิดปกติและนอกกรอบ เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการมา (การใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้สำเร็จ) ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี แต่มักกับการกระทำที่มีลักษณะไม่ซื่อ หรือการกระทำด้วยวิธีที่ไม่ดี

เปรียบเสมือนการใช้ทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายให้จงได้ โดยเริ่มจาก การใช้ปัญญาและไหวพริบ (เล่ห์/กล) และถ้ายังไม่สำเร็จ ก็จะเปลี่ยนไปสู่วิธีการที่เหนือธรรมชาติหรือวิธีการที่ผิดปกติและนอกกรอบ (มนต์/คาถา) เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการมาให้ได้ กล่าวคือ “ผู้ที่ต้องการเอาชนะผู้อื่นให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด คือถ้าทำวิธีแรกไม่สำเร็จ ก็จะหาพยายามใช้วิธีที่สอง ถ้าวิธีที่สองไม่ได้อีก ก็จะหาทางอื่น ๆ เพื่อให้สำเร็จให้ได้” นั่นเอง

ที่มาและความหมายไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ต้องเอาด้วยคาถา

ที่มาของสุภาษิต

มาจากความเชื่อของคนไทยสมัยก่อน และการใช้ชุดคำที่มีความหมายคล้ายกันมาคู่กันเพื่อสื่อถึงการใช้ทุกวิถีทางที่มี ในการบรรลุเป้าหมาย โดยเป็นการแสดงลำดับขั้นของการพยายาม “เล่ห์กล” หรือการใช้สติปัญญาไหวพริบ ซึ่งเป็นวิธีการตามโลกมนุษย์ หากวิธีการเหล่านี้ไม่ได้ผล ไม่สามารถได้สิ่งที่ต้องการมา ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนไปพึ่ง “มนต์” และ “คาถา” ซึ่งสื่อถึงอำนาจเหนือธรรมชาติ หรือวิธีการที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ปกติ

สุภาษิตนี้จึงเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะต้องได้สิ่งที่ปรารถนามาให้จงได้ โดยเป็นการขยายขอบเขตวิธีการออกไปอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นวิธีที่ชาญฉลาดหรือวิธีที่ผิดปกติและเหนือธรรมชาตินั่นเอง

ตัวอย่างการใช้สุภาษิต

  • ถ้าเราพยายามเจรจาตามกฎหมายแล้วยังชนะคู่แข่งไม่ได้ เราก็อาจจะต้องยอมใช้กลยุทธ์ที่เหนือความคาดหมาย หรือใช้วิธีลับ ๆ เพื่อให้ได้ส่วนแบ่งการตลาดมาให้ได้ เพราะงานนี้มันต้องไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ต้องเอาด้วยคาถา
  • เขาลองทำดีกับเธอทุกอย่างแล้วก็ยังไม่สำเร็จ สงสัยคงต้องไปปรึกษาเพื่อนที่เชี่ยวชาญด้านการวางแผนซับซ้อน หรืออาจจะต้องพึ่งพาการเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบสุดขั้ว เพื่อให้ได้เธอมา เพราะไม่ได้ด้วยเล่ห์ ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ต้องเอาด้วยคาถา
  • การพูดคุยแบบตรงไปตรงมาไม่เป็นผลแล้ว ถ้าอยากให้โครงการนี้ผ่าน เราอาจจะต้องเริ่มใช้เส้นสาย หรือใช้วิธีการอื่นที่นอกเหนือไปจากเหตุผล เพราะถึงจุดนี้แล้วต้องไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ต้องเอาด้วยคาถา
  • ถ้าการอ่านหนังสืออย่างหนักตามปกติยังทำคะแนนไม่ได้ตามเป้าหมาย เขาก็พร้อมที่จะลองใช้เทคนิคการจำที่ซับซ้อน หรืออาจจะต้องพึ่งพาการติวกับผู้เชี่ยวชาญทุกทาง เพื่อให้สอบผ่านให้ได้ ตามหลักไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ต้องเอาด้วยคาถา
  • หลังจากพยายามสร้างผลงานอย่างสุจริตแล้วยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง เขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องหาทางเดินเกมใต้ดิน หรือใช้วิธีที่ไม่ขาวสะอาด เพื่อล้มคู่แข่งให้ได้ เพราะเขาเชื่อว่าต้อง ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ต้องเอาด้วยคาถาเลย