รู้จักสำนวนกระเชอก้นรั่ว ที่มาและความหมาย

สำนวนกระเชอก้นรั่ว

สำนวนหมวดหมู่ ก. กระเชอก้นรั่ว

กระเชอก้นรั่วหมายถึง

กระเชอก้นรั่ว” หมายถึง บุคคลที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินจำเป็น ไม่มีการออมเงินหรือจัดการรายได้อย่างเหมาะสม เปรียบได้กับกระเช้าที่ก้นรั่ว ใส่สิ่งของลงไปมากแค่ไหน ของก็ไหลออกจนหมดไม่เหลืออะไร เป็นคำเตือนเรื่องการจัดการการเงินและความประหยัด กล่าวคือ “สุรุ่ยสุร่าย, ไม่รู้จักเก็บหอมรอมริบ, ขาดการประหยัด” คำนี้ยังมีเพี้ยนไปเป็น กระชังก้นรั่ว ก็มี นั่นเอง

ที่มาและความหมายกระเชอก้นรั่ว

ที่มาของสำนวนนี้

มีที่มาเกี่ยวข้องกับวิธีชีวิตและการใช้สิ่งของในอดีต โดยคำว่า “กระเชอ” ในที่นี้หมายถึงภาชนะชนิดหนึ่งที่ทำจากไม้ไผ่หรือหวาย ซึ่งถูกถักเป็นรูปกระเช้าสำหรับใส่สิ่งของ ใช้กันอย่างแพร่หลายในสังคมเกษตรกรรมในสมัยก่อน กระเชอมักมีความสำคัญในการใช้ขนของ เช่น ผัก ผลไม้ หรือสิ่งของในชีวิตประจำวัน เนื่องจากทำจากวัสดุธรรมชาติ กระเช้าบางใบเมื่อใช้ไปนาน ๆ ก็อาจเกิดการชำรุดหรือเกิดรอยรั่วที่ก้นได้

กระเชอ เป็นภาชนะพื้นบ้านที่ทำจากไม้ไผ่หรือหวาย โดยคนไทยในอดีตมักใช้กระเชอในการขนส่งและเก็บของ ซึ่งกระเชอมีลักษณะเป็นตะกร้าทรงสูงหรือกึ่งทรงกลม ก้นแคบ ปากกว้าง มีหูจับสำหรับถือหรือคล้องไหล่ได้ การใช้กระเชอเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของคนไทยในสมัยก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีการทำเกษตรกรรมเป็นหลัก

ในภาคเหนือและภาคอีสาน กระเชอถูกใช้ในการขนผลผลิตทางการเกษตร เช่น ข้าว ผัก ผลไม้ หรือของใช้จำเป็นในครัวเรือน กระเชอจึงเป็นของใช้ที่สำคัญในวิถีชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังมีความผูกพันกับการใช้งานในพิธีกรรมทางศาสนา เช่น การถวายอาหารให้พระสงฆ์ในช่วงวันพระ หรือใช้ใส่เครื่องสังฆทานไปถวายที่วัด

คนไทยในอดีตใช้กระเชอในการขนส่งสิ่งของในชีวิตประจำวัน โดยผู้หญิงในชนบทมักจะใช้กระเชอใส่ผักและผลไม้จากสวนเพื่อนำไปขายที่ตลาด หรือในบางครั้งใช้ใส่เสบียงเมื่อออกไปนาที่อยู่ห่างไกลจากหมู่บ้าน ในภาคอีสานกระเชอยังถูกใช้ในการขนข้าวเปลือกจากนาข้าวมาเก็บที่ยุ้งฉาง เป็นภาพวิถีชีวิตที่สะท้อนถึงความเป็นอยู่เรียบง่ายของคนในชนบท

จากลักษณะการใช้งานและวัฒนธรรมการสานกระเชอจากไม้ไผ่ เป็นที่สันนิษฐานว่าสำนวน “กระเชอก้นรั่ว” น่าจะมีที่มาจากภาคเหนือหรือภาคอีสาน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่นิยมใช้กระเชอในชีวิตประจำวัน และมีความผูกพันกับกระเชอในการขนส่งและเก็บของ

ในบริบทนี้ การมี “ก้นรั่ว” หมายถึงการที่สิ่งของที่ใส่ลงไปในกระเช้าไม่สามารถคงอยู่ได้ สิ่งของต่าง ๆ จะไหลออกทางรอยรั่วที่ก้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ สำนวนนี้จึงถูกนำมาเปรียบเปรยกับคนที่ไม่สามารถเก็บเงินหรือเก็บทรัพย์สินไว้ได้ เปรียบเสมือนการใส่ของลงในกระเช้าก้นรั่ว ไม่ว่าจะใส่ลงไปเท่าไหร่ ของเหล่านั้นก็จะไหลออกหมดทุกครั้ง ทำให้ไม่สามารถเก็บรักษาได้

สำนวนนี้สะท้อนถึงความเป็นอยู่ของคนในอดีตที่ต้องพึ่งพาการเก็บออมและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะในสมัยนั้นการหารายได้หรือทรัพย์สินอาจเป็นเรื่องยากลำบาก คนที่ไม่สามารถเก็บเงินได้จึงมักถูกตำหนิหรือถูกเปรียบเปรยเป็น “กระเชอก้นรั่ว” เพื่อเตือนสติให้รู้จักประหยัดและใช้เงินอย่างรอบคอบ

ในมุมมองของคนไทย การใช้สำนวนนี้แฝงนัยยะที่ชัดเจนถึงการเตือนใจเรื่องการจัดการเงินทอง เพราะกระเช้าที่มีรอยรั่วนั้น เป็นสิ่งที่แสดงถึงการสูญเสียและความไม่มั่นคงทางการเงิน ดังนั้นจึงเป็นการสื่อสารให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านตระหนักถึงการเก็บออมและใช้จ่ายอย่างรอบคอบ มิเช่นนั้นทรัพย์สินที่มีอยู่ก็จะหมดไปอย่างไม่รู้ตัว

ตัวอย่างการใช้สำนวนนี้

  • แม่เตือนต่ายที่เพิ่งได้เงินจากงานพิเศษมา แต่รีบเอาไปซื้อของที่ไม่จำเป็นจนหมด แม่บอกว่าแม้จะมีรายได้เข้ามามากแค่ไหน แต่ถ้าใช้เงินแบบไม่คิดล่วงหน้า สุดท้ายก็จะไม่เหลืออะไรเก็บไว้เผื่ออนาคตเลย (เหมือนกับการมีเงินเท่าไหร่ก็ไหลออกไปหมด เพราะไม่มีการวางแผนการใช้เงินที่ดี)
  • เอกเป็นพนักงานที่ได้รับโบนัสก้อนใหญ่ช่วงสิ้นปี แต่กลับใช้เงินไปกับสิ่งของฟุ่มเฟือยทั้งหมด แทนที่จะเก็บบางส่วนไว้ลงทุนหรือต่อยอด เจ้านายเห็นเอกแล้วรู้สึกเสียดายแทน เพราะการใช้จ่ายแบบนี้ก็ทำให้ไม่มีโอกาสสร้างความมั่นคงในระยะยาว (การใช้จ่ายโดยไม่คิดถึงผลลัพธ์ ทำให้โอกาสเก็บออมสูญเสียไป)
  • ฝนมีรายได้ดีจากการทำงานพิเศษ แต่ก็ชอบเอาเงินไปใช้กับการท่องเที่ยวและซื้อของทุกครั้งจนไม่เหลือเก็บ เพื่อน ๆ จึงแซวว่า ถ้าไม่รู้จักเก็บออมเลย วันหนึ่งอาจจะต้องลำบากหากเจอสถานการณ์ฉุกเฉิน (เพราะใช้เงินไปอย่างไม่มีการออม ทำให้ไม่เหลือเผื่อในยามจำเป็น)
  • ในชุมชนเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ผู้ใหญ่บ้านพาเงินกองทุนที่ควรจะนำไปพัฒนาหมู่บ้านไปจัดงานเลี้ยงบ่อยครั้งจนเงินร่อยหรอไปเรื่อย ๆ ชาวบ้านหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่าแบบนี้จะทำให้ชุมชนเจริญขึ้นได้อย่างไร (การใช้เงินไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น ทำให้การพัฒนาที่ควรจะเกิดขึ้นไม่สำเร็จ)
  • ครูใหญ่บอกกับนักเรียนในชั้นเรียนว่า การได้เงินค่าขนมมาแล้วใช้จนหมดโดยไม่เก็บบ้าง เท่ากับใช้ชีวิตแบบที่ไม่มีอะไรเผื่ออนาคต หากวันหนึ่งเกิดเหตุจำเป็นขึ้นมา ก็จะไม่เหลืออะไรเลย (สะท้อนถึงการใช้จ่ายเงินแบบไม่คิดถึงความสำคัญของการออม ซึ่งทำให้การเงินในอนาคตไม่มั่นคง)

สำนวน, สุภาษิต, คำพังเพย ที่คล้ายกัน

  • ชักหน้าไม่ถึงหลัง หมายถึง: การใช้จ่ายที่มากเกินกว่ารายรับ จนไม่เพียงพอจะใช้ในแต่ละเดือน สะท้อนถึงการจัดการเงินที่ไม่ดี

รู้จักสำนวน, สุภาษิต, อื่น ๆ ได้ที่ goodproverb.com

อ้างอิงความหมายจาก LONGDO DICT