รู้จักสุภาษิตของหายตะพายบาป ที่มาและความหมาย

สุภาษิตของหายตะพายบาป

สุภาษิตหมวดหมู่ ข. ของหายตะพายบาป

ของหายตะพายบาป หมายถึง

สุภาษิต “ของหายตะพายบาป” หมายถึง การสูญเสียทรัพย์สินหรือของสำคัญ แล้วกลับกล่าวหาผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด อาจเป็นการกล่าวหาโดยความเข้าใจผิดหรือความลำเอียง ทำให้ผู้อื่นต้องรับความผิดโดยไม่เป็นธรรม สะท้อนถึงพฤติกรรมที่รีบร้อนกล่าวโทษผู้อื่นโดยไม่ได้ไตร่ตรอง กล่าวคือ “การที่ของหายหรือเข้าใจว่าหายแล้วเที่ยวโทษผู้อื่น” นั่นเอง

ที่มาและความหมายของหายตะพายบาป

ที่มาของสุภาษิตนี้

มาจากวิถีชีวิตในสังคมไทยโบราณ เมื่อมีการสูญเสียทรัพย์สินหรือของสำคัญ มักเกิดความวิตกกังวลและความไม่พอใจ ทำให้เจ้าของของหายรีบกล่าวโทษหรือสงสัยผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด คำว่า “ตะพายบาป” สื่อถึงการแบกบาปหรือทำให้ผู้อื่นต้องรับความผิดที่ไม่ได้ก่อ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ยุติธรรมและอาจทำให้เกิดความบาดหมางในสังคม

คำว่า “ตะพายบาป” มาจากคำว่า “ตะพาย” ซึ่งหมายถึง การแบกหรือสะพายสิ่งของไว้บนบ่า หรือการรับภาระบางอย่างไว้ ส่วนคำว่า “บาป” หมายถึง ความผิดหรือผลแห่งการกระทำที่ไม่ถูกต้องในทางศีลธรรม

เมื่อนำมารวมกัน “ตะพายบาป” จึงหมายถึง การต้องรับผิดในสิ่งที่ไม่ได้กระทำ หรือการถูกกล่าวหาให้ต้องรับภาระความผิดโดยไม่เป็นธรรม เปรียบเสมือนการต้องแบกความผิดติดตัวไว้ ทั้งที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้ก่อ

สุภาษิตนี้จึงถูกใช้เป็นคำเตือนให้คนไม่รีบด่วนตัดสินหรือกล่าวโทษผู้อื่นโดยปราศจากหลักฐาน เพราะอาจสร้างความเสียหายต่อความสัมพันธ์และก่อให้เกิดบาปแก่ตนเอง

ตัวอย่างการใช้สุภาษิตนี้

  • คุณยายทำเงินหล่นหายระหว่างเดินตลาด เมื่อกลับถึงบ้าน เธอกล่าวหาหลานชายว่าเป็นคนขโมยเงินไป เพราะหลานเคยหยิบเงินไปซื้อขนมโดยไม่บอก แต่เมื่อค้นพบว่าเงินอยู่ในกระเป๋าอีกใบ เธอจึงรู้สึกผิดที่ทำให้หลานต้องตะพายบาปโดยไม่จำเป็น (การกล่าวโทษโดยไม่มีหลักฐานจนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน)
  • เมื่อโทรศัพท์ของสมชายหาย เขากล่าวหาว่าพนักงานร้านกาแฟที่เขาเพิ่งไปอาจเป็นคนหยิบไป แต่ต่อมาพบว่าโทรศัพท์ตกอยู่ในรถของตัวเอง เหตุการณ์นี้ทำให้เขารู้สึกผิดที่ทำให้พนักงานต้องตะพายบาปโดยไม่มีความผิด (การรีบด่วนกล่าวโทษผู้อื่นโดยไม่ตรวจสอบให้แน่ชัด)
  • นิดทำสร้อยคอหายแล้วรีบกล่าวหาว่าเพื่อนสนิทเป็นคนขโมยไป ทั้งที่ไม่มีหลักฐาน ต่อมาเธอพบว่าสร้อยคอหล่นอยู่ใต้เตียง เธอจึงต้องขอโทษเพื่อนที่ทำให้ต้องตะพายบาปทั้งที่ไม่ได้ทำผิด (การกล่าวโทษเพื่อนโดยไม่พิจารณาให้รอบคอบ)
  • ครูประจำชั้นกล่าวโทษนักเรียนกลุ่มหนึ่งว่าขโมยสมุดบัญชีโรงเรียนไป เพราะเห็นว่าพวกเขาอยู่ใกล้ ๆ ในเวลานั้น แต่ภายหลังพบว่าสมุดบัญชีตกอยู่ในห้องเก็บของ เหตุการณ์นี้ทำให้นักเรียนกลุ่มนั้นรู้สึกเสียใจที่ต้องตะพายบาปจากความเข้าใจผิดของครู (การกล่าวโทษโดยไม่สอบสวนให้ถี่ถ้วน)
  • นายจ้างคนหนึ่งกล่าวหาคนงานว่าเป็นคนขโมยเครื่องมือช่างไปขาย แต่หลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าเครื่องมือนั้นถูกลืมไว้ในรถขนส่งของบริษัท นายจ้างจึงต้องขอโทษคนงานที่ทำให้พวกเขาต้องตะพายบาปจากข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริง (การกล่าวโทษที่เกิดจากการเข้าใจผิดและการไม่ตรวจสอบให้ดี)

สำนวน, สุภาษิต, คำพังเพย ที่คล้ายสุภาษิตนี้

  • ขี้ราดโทษล่อง หมายถึง: การทำผิดหรือก่อปัญหาด้วยตัวเอง แต่กลับโยนความผิดหรือกล่าวโทษคนอื่นแทน
  • รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง หมายถึง: การกระทำใด ๆ ของตนที่ได้ผลออกมาไม่ดี แต่กลับโทษคนอื่นหรือสิ่งอื่น แทนที่จะโทษตัวเอง

รู้จักสำนวน, สุภาษิต, อื่น ๆ ได้ที่ goodproverb.com

อ้างอิงความหมายจาก LONGDO DICT