คำพังเพยไทยหมวดหมู่ ป. ปูนอย่าขาดเต้า ข้าวอย่าขาดโอ่ง
ปูนอย่าขาดเต้า ข้าวอย่าขาดโอ่ง หมายถึง
คำพังเพย “ปูนอย่าขาดเต้า ข้าวอย่าขาดโอ่ง” หมายถึง การอย่าละเลยสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการเงิน ต้องคอยดูแลให้มีอยู่เสมอ เปรียบกับปูน (ปูนแดง หรือปูนสำหรับกินกับหมากของคนสมัยก่อน) และข้าวซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ ต้องคอยดูไม่ให้หมด กล่าวคือ “การบริหารจัดการเงินอย่างพอเหมาะพอควร ไม่ให้ขาดแคลน และรู้จักเก็บออมไว้บ้าง เพื่อความมั่นคงในอนาคต” นั่นเอง

ที่มาของคำพังเพย
มาจากวิถีชีวิตของคนไทยสมัยก่อน โดยเฉพาะในชนบท ซึ่งสิ่งของแต่ละอย่างที่กล่าวถึงถือเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน
- ปูนแดงหรือปูนสำหรับกินกับหมาก เป็นสิ่งที่คนไทยเคี้ยวกับหมากอยู่เสมอ ไม่เพียงแต่เป็นกิจวัตรส่วนตัว แต่ยังเกี่ยวข้องกับสังคมและวัฒนธรรม เช่น การเข้าสังคมหรือพิธีกรรม การขาดปูนสำหรับหมากจึงเหมือนการขาดสิ่งพื้นฐานที่ใช้ในชีวิตประจำวัน คนสมัยก่อนจึงเตือนว่าปูอย่าขาดเต้าอยู่เสมอ ๆ (เต้า คือ ภาชนะหรือกล่องใส่ปูนแดงสำหรับเคี้ยวหมากในสมัยก่อน)
- ข้าว เป็นอาหารหลักของครอบครัว การมีข้าวเพียงพอคือความมั่นคงทางโภชนาการและความอยู่รอดของครอบครัว ขาดข้าวก็เหมือนขาดความมั่นคงขั้นพื้นฐาน ควรดูข้าวในโอ่งเสมอว่าเหลืออยู่ไหม
คำพังเพยนี้จึงสะท้อนความรู้สึกความระมัดระวังในการรักษาสิ่งจำเป็นให้ครบถ้วน ไม่ละเลยสิ่งพื้นฐานในชีวิต โดยเฉพาะการเงิน เพื่อให้ชีวิตประจำวันดำเนินไปอย่างราบรื่น ครอบครัวมีความมั่นคง และวิถีชีวิตไม่สะดุด เปรียบเสมือนการรักษาองค์ประกอบสำคัญของชีวิตให้ “ไม่ขาด” เพื่อความสมบูรณ์และต่อเนื่องของชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างการใช้คำพังเพย
- น้อยจัดพิธีเล็ก ๆ ในชุมชน ปูนอย่าขาดเต้า ข้าวอย่าขาดโอ่ง แม้ว่าจะเตรียมขนมและของใช้ทุกอย่าง แต่ขาดสิ่งจำเป็นพื้นฐานเพียงนิดเดียว งานก็แทบล่ม (น้อยละเลยสิ่งจำเป็นพื้นฐาน แม้เล็กน้อยก็ทำให้ผลลัพธ์ไม่สมบูรณ์)
- วิชิตเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ วันแรก ก็พลาดเสียแล้ว นี่แหละปูนอย่าขาดเต้า ข้าวอย่าขาดโอ่ง แม้เตรียมส่วนอื่นครบหมด แต่ขาดสิ่งจำเป็นพื้นฐาน ทำให้ขายอาหารไม่ได้ตามแผน (วิชิตละเลยสิ่งจำเป็นพื้นฐานแม้เล็กน้อย ก็ทำให้ชีวิตและงานสะดุดทันที)
- เตรียมอาหารสำหรับครอบครัวใหญ่ ปูนอย่าขาดเต้า ข้าวอย่าขาดโอ่ง เตรียมทุกอย่างเต็มที่ แต่พอสิ่งจำเป็นบางอย่างขาดไป เช่น ข้าวกับวัตถุดิบสำรอง อาหารและบริการครอบครัวก็สะดุด (ถ้าไม่ดูแลสิ่งจำเป็นให้ครบถ้วน แม้สิ่งเล็ก ๆ ก็ทำให้ทุกอย่างล้มเหลวได้)
- เขาทำงานเก็บเงิน แม้จะเป็นคนหัวโบราณ แต่ครอบครัวก็ไม่เคยขัดสน เขาเชื่อเสมอว่า ปูนอย่าขาดเต้า ข้าวอย่าขาดโอ่ง (การรักษาสิ่งจำเป็นในชีวิตให้ครบถ้วน ทำให้ครอบครัวอุ่นใจ ไม่เดือดร้อน และไม่ไปเบียดเบียนใคร)
- ทักษะทางการเงินสอนกันแต่โบร่ำโบราณแล้ว เหมือนดั่งปูนอย่าขาดเต้า ข้าวอย่าขาดโอ่ง ไม่ฟุ่มเฟือย กินพอเหมาะ รู้จักเก็บออมเผื่อฉุกเฉินบ้าง (การรักษาสิ่งจำเป็นและใช้ทรัพยากรอย่างพอเหมาะ ทำให้ชีวิตมั่นคง ครอบครัวอุ่นใจ และไม่เดือดร้อน)