สำนวนทุบหม้อข้าวตัวเอง

รู้จักสำนวนทุบหม้อข้าวตัวเอง ที่มาและความหมาย

สำนวนไทยหมวดหมู่ ท. ทุบหม้อข้าวตัวเอง

ทุบหม้อข้าวตัวเอง หมายถึง

สำนวน “ทุบหม้อข้าวตัวเอง” หมายถึง การกระทำที่ทำลายแหล่งรายได้ หนทางทำมาหากิน หรือสิ่งที่เลี้ยงชีวิตของตนเอง ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือเพราะความโกรธ ความดื้อดึง หรืออารมณ์ชั่ววูบ เปรียบเสมือนการทุบหม้อข้าวที่ตนใช้หุงหาอาหารกินอยู่ทุกวัน ทำให้ตนเองไม่มีอาหาร ไม่มีทางเลี้ยงชีวิตต่อไป สะท้อนถึงการทำลายสิ่งที่มีคุณค่าและจำเป็นต่อการดำรงชีพของตนเอง กล่าวคือ “ผู้ที่ตัดอาชีพ, ทำลายหนทางทำมาหากินของตนเอง” นั่นเอง

ที่มาและความหมายทุบหม้อข้าวตัวเอง

ที่มาของสำนวน

มาจากภาพเปรียบเปรยในชีวิตจริงของชาวบ้านหรือคนหาเช้ากินค่ำ ที่มีหม้อข้าวเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เพราะเป็นภาชนะสำหรับหุงหาอาหารเลี้ยงปากท้อง

หากใคร “ทุบหม้อข้าว” ของตนเอง ก็เท่ากับว่าทำลายสิ่งที่เป็นเครื่องยังชีพหรือแหล่งทำมาหากินของตัวเองโดยตรง ซึ่งอาจเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ ความไม่ยั้งคิด หรือการกระทำโดยไม่รู้ตัวว่าเป็นการทำร้ายตัวเอง

ต่อมา จึงถูกนำมาใช้เป็นสำนวนเปรียบเปรยถึงการกระทำที่ส่งผลให้ตัวเอง หมดโอกาสหารายได้ สูญเสียหน้าที่การงาน หรือทำลายอนาคตของตัวเอง ด้วยความดื้อรั้นหรือขาดวิจารณญาณ

ตัวอย่างการใช้สำนวน

  • เขาโพสต์วิจารณ์บริษัทลงโซเชียลแบบรุนแรง ทั้งที่ยังเป็นพนักงานอยู่ “แบบนี้ไม่ต่างอะไรกับทุบหม้อข้าวตัวเองเลย” (แสดงถึงการกระทำที่เสี่ยงต่อการถูกไล่ออก ทั้งที่ยังพึ่งพาบริษัทอยู่)
  • วันประชุมใหญ่ เขาพูดขัดเจ้านายอย่างแรงต่อหน้าผู้บริหารจากสำนักงานใหญ่ “พูดแบบนี้ต่อหน้าทุกคน ก็ทุบหม้อข้าวตัวเองชัด ๆ” (แสดงถึงการกระทำที่อาจทำให้เสียตำแหน่งหรือลดความน่าเชื่อถือในองค์กร)
  • พนักงานคนหนึ่งนำสูตรลับของร้านไปโพสต์ในกลุ่มสาธารณะเพราะโกรธหัวหน้า (เป็นการเปิดเผยความลับของธุรกิจที่ตนเองทำงานอยู่ ซึ่งอาจทำให้ร้านปิดตัวและเขาตกงานไปด้วย เท่ากับทุบหม้อข้าวตัวเอง)
  • เธอลาออกเพราะไม่พอใจหัวหน้า ทั้งที่ยังไม่มีงานใหม่ เพื่อนร่วมงานจึงเตือนว่า “ใจร้อนแบบนี้ ระวังจะทุบหม้อข้าวตัวเองโดยไม่รู้ตัวนะ” (เตือนว่าอย่าตัดสินใจด้วยอารมณ์ เพราะอาจทำให้ตัวเองเดือดร้อนในภายหลัง)
  • พ่อค้าบางคนพูดจาไม่ดีกับลูกค้าประจำ จนเขาเลิกซื้อของที่ร้าน “ทำแบบนี้ก็คือทุบหม้อข้าวตัวเอง ลูกค้าประจำหายรายได้ก็หด” (เป็นการกระทำที่ทำให้สูญเสียแหล่งรายได้ที่สำคัญไปด้วยน้ำมือของตัวเอง)

by