คำพังเพยพลั้งปากเสียศีล พลั้งตีนตกต้นไม้

รู้จักคำพังเพยพลั้งปากเสียศีล พลั้งตีนตกต้นไม้ ที่มาและความหมาย

คำพังเพยไทยหมวดหมู่ พ. พลั้งปากเสียศีล พลั้งตีนตกต้นไม้

พลั้งปากเสียศีล พลั้งตีนตกต้นไม้ หมายถึง

คำพังเพย “พลั้งปากเสียศีล พลั้งตีนตกต้นไม้” หมายถึง การพูดหรือกระทำโดยไม่รอบคอบ อาจทำให้เสียศีล ขาดความมั่นคง หรือเกิดความเสียหายต่อกายและใจ การไม่ระมัดระวังเพียงเล็กน้อยสามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรง

เปรียบเสมือนการตกปากรับคำในการสู่ขอของกฎหมายตราสามดวง หากบิดามารดาหรือญาติพลั้งปากเปลี่ยนใจ จะต้องเสียค่าสีนหรือสินทันที การไม่ระวังคำพูดก็เช่นเดียวกัน หากพูดโดยไม่รอบคอบ ก็อาจ “เสียศีล” หรือเกิดความเสียหายได้เหมือนพลั้งตีนตกต้นไม้ กล่าวคือ “การพูด หรือทำสิ่งใดโดยไม่ระมัดระวัง จะทำให้เกิดความเสียหาย หรือเดือดร้อน” นั่นเอง

ที่มาและความหมายพลั้งปากเสียศีล พลั้งตีนตกต้นไม้

ที่มาของคำพังเพย

มาจากกฎหมายตราสามดวง ในสมัยพระเจ้าอู่ทอง ซึ่งบัญญัติเรื่องการสู่ขอลูกสาวหรือลูกหลานของตน ซึ่งบัญญัติไว้ว่า

“ผู้ใดให้ไปสู่ขอลูกสาวหลานสาวของตน แล้วบิดามารดาหรือญาติของหญิงตกปากรับคำให้กินขันหมาก ชายนั้นถือว่าหาผิดมิได้ แต่หากบิดามารดาหรือญาติของหญิงเกิดความแหนงแคลงใจ แกล้งไม่ให้หญิงแก่ชายตามที่ตกปากไว้ หรือเปลี่ยนถ้อยคำหลายประการจนไม่ชัดเจน เมื่อมีชายผู้อื่นมาสู่ขออีก หากหญิงนั้นยอมรับ ชายผู้นั้นก็ถือว่าถูกต้องเช่นกัน

ในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายเป็นคู่กัน กฎหมายบัญญัติให้ลูกสาวนั้นเป็นของชายผู้มาสู่ขอก่อน และให้เอาขันหมากของชายภายหลังมาตั้งไว้ บิดามารดาหญิงจะทวีคูนทุนและยกให้เจ้าของ เหลือเป็นสีนไหม กึ่งพินัยกึ่ง แล้วให้ใช้ค่าฤชาทำเนียมแก่ชายภายหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความทะนงศักดิ์และละเมิดกฎหมายเมือง

หากบิดามารดาหญิงตกปากรับคำให้บุตรีเป็นภรรยาของชายใด และรับสีนสอดขันหมากของชายแล้ว แต่กลับเปลี่ยนถ้อยคำไม่ให้ถือเป็นจริง ต้องคิดเอาค่าตัวหญิงตามกระเสียรอายุและคืนสีนสอดนั้นให้ครบถ้วน เหตุพลั้งปากเสียสีน พลาดตีนตกต้นไม้”

ต่อมาคำว่า “สีน” หรือ “สิน” ซึ่งเดิมหมายถึงเงินหรือทรัพย์ ถูกเปลี่ยนความหมายในคำพังเพยไทยให้สื่อถึงศีล ซึ่งหมายถึงข้อบัญญัติทางพระพุทธศาสนาในการปฏิบัติกายและวาจา เช่น ศีลห้า ศีลแปด หรือการรักษากายวาจาให้เรียบร้อย

ดังนั้นคำพังเพยนี้นี้จึงเตือนให้คนระมัดระวังคำพูดและการกระทำ เพราะเพียงพลั้งปากหรือประมาทเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้เสียศีลหรือเกิดความเสียหายได้เหมือนพลั้งตีนตกต้นไม้

ตัวอย่างการใช้คำพังเพย

  • พลั้งปากเสียศีล พลั้งตีนตกต้นไม้ เขารู้ตัวดีว่าการพูดโดยไม่รอบคอบในที่ประชุมสำคัญอาจทำให้เสียเครดิตและโอกาส
  • เธอเลือกไตร่ตรองทุกคำก่อนตอบคำถามจากผู้บังคับบัญชา เพราะพลั้งปากเสียศีล พลั้งตีนตกต้นไม้ การพูดโดยไม่คิดอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด
  • ขณะเจรจาธุรกิจ เขายังคงยั้งคำพูดไว้ระมัดระวังทุกประโยค เพื่อไม่ให้พลั้งปากเสียศีล พลั้งตีนตกต้นไม้ และเสียโอกาสสำคัญ
  • นักปีนเขาไม่ประมาท ทุกย่างก้าวล้วนระมัดระวัง เพราะรู้ว่าพลั้งเพียงเล็กน้อยก็เหมือน พลั้งปากเสียศีล พลั้งตีนตกต้นไม้
  • ครูเตือนนักเรียนให้คิดก่อนพูดและระมัดระวังทุกการกระทำ ถ้าไม่ทำตามอาจเกิดความเสียหายจริง ๆ พลั้งปากเสียศีล พลั้งตีนตกต้นไม้