รู้จักสำนวนกระดังงาลนไฟ ที่มาและความหมาย

สำนวนกระดังงาลนไฟ

สำนวนหมวดหมู่ ก. กระดังงาลนไฟ

กระดังงาลนไฟ หมายถึง

สำนวน “กระดังงาลนไฟ” หมายถึง ผู้หญิงที่มีเสน่ห์ดึงดูด โดยเฉพาะผู้หญิงที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาก่อน เช่น เคยแต่งงานผ่านความรักหรือชีวิตคู่มาแล้ว จนมีเสน่ห์เฉพาะตัวและน่าดึงดูดมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น เปรียบเหมือนดอกกระดังงาที่ต้องลนไฟเพื่อให้กลิ่นหอมแรงและคงทนกว่าปกติ

สำนวนนี้ใช้เปรียบเปรยถึงผู้หญิงที่มีลักษณะท่าทีสง่างาม นุ่มนวล แต่ซ่อนความมีเสน่ห์ในตัว เหมือนความหอมที่ค่อย ๆ เปล่งออกมาเมื่อโดนลนไฟ เสน่ห์นี้ไม่ได้มีมาตั้งแต่แรก แต่พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์และอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้เธอมีความน่าหลงใหลในแบบที่เด็กสาวไม่มี สำนวนนี้แฝงไว้ด้วยความชื่นชมในความงามและเสน่ห์ที่มาพร้อมกับประสบการณ์ชีวิต

ผู้หญิงที่มีประสบการณ์ในเรื่องความรักและความสัมพันธ์ รู้จักชั้นเชิงในการปรนนิบัติและเอาอกเอาใจคู่ครองได้ดี เข้าใจความต้องการของผู้ชาย และสามารถสร้างเสน่ห์ในแบบที่ผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานหรือไม่มีประสบการณ์ไม่สามารถทำได้ นี่คือเสน่ห์ที่ค่อย ๆ สะสมผ่านกาลเวลา ทำให้เธอมีความมั่นใจและท่าทีดึงดูดใจที่ยากจะต้านทาน กล่าวคือ “หญิงที่เคยแต่งงานหรือผ่านผู้ชายมาแล้ว ย่อมรู้จักชั้นเชิงทางปรนนิบัติและเอาอกเอาใจผู้ชายได้ดีกว่าหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน

ที่มาและความหมายกระดังงาลนไฟ

ที่มาของสำนวนนี้

มาจากการเปรียบเทียบเปรียบเปรยถึงกับดอกกระดังงา ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมแรง (ใช้กลั่นทำน้ำอบน้ำหอมได้) ซึ่งเป็นดอกไม้ที่ต้องลนไฟก่อนจึงจะส่งกลิ่นหอมฟุ้งและคงทนกว่าเดิม ในอดีตชาวไทยจะนำดอกกระดังงามาผ่านกระบวนการอบหรือลนไฟเพื่อทำให้กลิ่นหอมกระจายไปได้มากขึ้นและยาวนาน กลิ่นหอมของกระดังงาที่ผ่านการลนไฟมีเอกลักษณ์ที่เย้ายวนใจและติดทน สะท้อนถึงการปรุงแต่งและการทำให้หอมจนโดดเด่น เหมาะสำหรับการนำไปใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ และการประดับตกแต่งเพื่อความสวยงามและกลิ่นหอม

คนไทยมีความผูกพันกับดอกกระดังงาอย่างลึกซึ้ง เนื่องจากกระดังงาถือเป็นหนึ่งในดอกไม้พื้นเมืองที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เมื่อดอกกระดังงาผ่านกระบวนการ “ลนไฟ” หรือการอุ่นไฟ กลิ่นของมันจะยิ่งหอมและฟุ้งได้นานขึ้น ชาวไทยนิยมใช้กระดังงาในพิธีกรรมต่าง ๆ ทั้งในงานมงคลและงานบุญ เช่น การทำน้ำอบไทย น้ำปรุง และประดับตกแต่งตามบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศหอมสดชื่น อีกทั้งยังใช้ในการผลิตน้ำมันหอมระเหยเพราะกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์และติดทนนาน จึงสะท้อนถึงความเชื่อมโยงระหว่างคนไทยกับดอกกระดังงาในด้านวัฒนธรรมและการใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน

สำนวนนี้จึงถูกนำมาใช้เปรียบเปรยถึงผู้หญิงที่มีประสบการณ์ในความรักและชีวิตคู่ หรือที่เคยผ่านความสัมพันธ์มาบ้างแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการดูแลและการเอาใจใส่คู่ครอง เธอจะเข้าใจชั้นเชิงและท่าทีที่ดึงดูดความสนใจได้อย่างมีชั้นเชิง ทำให้เธอดูมีเสน่ห์ในแบบที่ผู้หญิงที่ยังไม่มีประสบการณ์อาจไม่สามารถทำได้ ผู้หญิงที่มีคุณสมบัติเหมือน “กระดังงาลนไฟ” จึงได้รับความสนใจและชื่นชมจากคนรอบข้าง โดยเสน่ห์นี้ไม่ได้มาจากความสดใหม่หรือความเยาว์วัย แต่เกิดจากความเป็นผู้ใหญ่และประสบการณ์ชีวิตที่หล่อหลอมให้เธอมีความน่าหลงใหลอย่างลึกซึ้ง

ดอกกระดังงาเป็นตัวแทนของผู้หญิงไทยที่มีประสบการณ์และเสน่ห์ที่ลึกซึ้ง เหมือนกับดอกกระดังงาที่ต้องผ่านการลนไฟก่อน กลิ่นถึงจะหอมแรงและติดทน ผู้หญิงที่ผ่านประสบการณ์ความรักและชีวิตคู่มาแล้วมักจะมีความเข้าใจและรู้จักชั้นเชิงในการดูแลเอาใจใส่คู่ครอง มีความมั่นใจและสง่างาม ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่น่าดึงดูดใจในแบบที่ผู้หญิงอายุน้อยหรือไม่มีประสบการณ์อาจยังไม่สามารถทำได้

สำนวนนี้ยังสื่อถึงความงามที่ได้รับการขัดเกลาและพัฒนา เหมือนดอกกระดังงาที่ต้องผ่านไฟก่อนจึงจะส่งกลิ่นหอมที่คงทนและโดดเด่น ไม่ได้หอมเพียงแค่ระยะสั้น ๆ แต่ยิ่งนานกลิ่นยิ่งหอมแรงขึ้น เปรียบเหมือนเสน่ห์ของผู้หญิงที่ยิ่งอายุมากขึ้นและมีประสบการณ์มากขึ้น ก็ยิ่งน่าดึงดูดใจ

ดอกกระดังงาเป็นตัวแทนของผู้หญิงไทยที่มีประสบการณ์และเสน่ห์ที่ลึกซึ้ง เหมือนกับดอกกระดังงาที่ต้องผ่านการลนไฟก่อน กลิ่นถึงจะหอมแรงและติดทน ผู้หญิงที่ผ่านประสบการณ์ความรักและชีวิตคู่มาแล้วมักจะมีความเข้าใจและรู้จักชั้นเชิงในการดูแลเอาใจใส่คู่ครอง มีความมั่นใจและสง่างาม ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่น่าดึงดูดใจในแบบที่ผู้หญิงอายุน้อยหรือไม่มีประสบการณ์อาจยังไม่สามารถทำได้

การนำดอกกระดังงามาเปรียบกับผู้หญิงในสำนวนนี้จึงเกิดจากความคล้ายคลึงของความหอมที่ต้องผ่านการลนไฟเพื่อให้หอมทน เปรียบเหมือนเสน่ห์ที่มาพร้อมกับกาลเวลาและการขัดเกลาจากประสบการณ์ เหมือนดอกกระดังงาที่ได้รับการปรุงแต่งให้หอมชัดและติดทนนาน

ตัวอย่างการใช้สำนวนนี้

  • คุณยายเล่าว่าสมัยสาว ๆ ถึงจะผ่านการแต่งงานมาแล้ว แต่หนุ่ม ๆ ก็ยังมาตามจีบไม่ขาด เพราะเสน่ห์นั้นยิ่งเพิ่มตามวัยและประสบการณ์ เหมือนกระดังงาลนไฟที่กลิ่นหอมฟุ้งยิ่งกว่าเดิม (เปรียบถึงเสน่ห์ที่มาจากประสบการณ์และอายุมากขึ้น)
  • พี่น้อยเป็นคนที่รู้วิธีพูดจาเข้าหู รู้จักวิธีเข้าถึงคนรอบตัว ทำให้เธอเป็นที่ชื่นชมในบริษัท หลายคนอดทึ่งไม่ได้กับชั้นเชิงและเสน่ห์แบบกระดังงาลนไฟของเธอ (หมายถึงผู้หญิงที่มีประสบการณ์และรู้วิธีดึงดูดใจคน)
  • ถึงคุณแม่จะอายุมากขึ้น แต่กลับมีความเข้าใจและดูแลพ่อได้เป็นอย่างดี จนใคร ๆ ต่างบอกว่าเสน่ห์ของแม่ยิ่งทวีคูณตามกาลเวลา เหมือนดอกกระดังงาที่ต้องลนไฟให้หอมยิ่งขึ้น (การเปรียบเทียบถึงความน่าดึงดูดใจที่มากขึ้นจากความเข้าใจและความเป็นผู้ใหญ่)
  • มิ่งดูสวยสง่าขึ้นหลังแต่งงาน คนรอบตัวต่างชื่นชมว่าดูเป็นผู้ใหญ่และน่ามองมากกว่าเดิม ราวกับกระดังงาลนไฟที่ยิ่งผ่านอะไรมาก็ยิ่งหอมเย้ายวน (เปรียบถึงเสน่ห์ที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลาและประสบการณ์ชีวิต)
  • พี่บีมเป็นคนที่รู้จักวิธีเอาใจใส่และพูดจาเป็นมิตรกับสามี จนใคร ๆ ก็รู้สึกว่าเสน่ห์ในตัวเธอนั้นไม่เหมือนใคร และยิ่งอายุมากยิ่งดูดีขึ้นเรื่อย ๆ (สะท้อนถึงความน่าหลงใหลที่มาจากประสบการณ์และการดูแลเอาใจใส่)

รู้จักสำนวน, สุภาษิต, อื่น ๆ ได้ที่ goodproverb.com

อ้างอิงความหมายจาก LONGDO DICT