สุภาษิตไทยหมวดหมู่ ก. การกินการอยู่ใครไม่สู้พ่อ การพายการถ่อพ่อไม่สู้ใคร
การกินการอยู่ใครไม่สู้พ่อ การพายการถ่อพ่อไม่สู้ใคร หมายถึง
สุภาษิตไทย “การกินการอยู่ใครไม่สู้พ่อ การพายการถ่อพ่อไม่สู้ใคร” หมายถึง คนที่ไม่เอาการเอางาน ทำแต่สิ่งที่สบายและเป็นประโยชน์ต่อตนเอง เช่น กินอยู่หรือนอน โดยไม่ยอมทำงานหนักหรือช่วยเหลือผู้อื่น คำว่า “การกินการอยู่“ หมายถึงเรื่องการใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย แต่ “การพายการถ่อ“ หมายถึงงานหนักที่ต้องใช้แรง สุภาษิตนี้เตือนถึงพฤติกรรมของคนที่ขาดความรับผิดชอบและไม่ยอมทำงานที่เหนื่อยยาก เหมือนเพียงกินเสร็จแล้วก็นอน กล่าวคือ “คนไม่เอาการเอางาน กินเสร็จแล้วก็นอน” นั่นเอง
ที่มาของสุภาษิตนี้
วิถีชีวิตและสังคมของคนไทยในอดีต ซึ่งมีความสำคัญต่อบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะบทบาทของ “พ่อ” ในฐานะหัวหน้าครอบครัวที่ควรเป็นแบบอย่างในทุกด้าน สุภาษิตนี้ออกแนวประชดชันว่า “การกินการอยู่ใครไม่สู้พ่อ” สื่อถึงการกินที่ไม่มีใครสู้ได้ เก่งมากเรื่องกิน คำว่า “การพายการถ่อพ่อไม่สู้ใคร” เปรียบเทียบถึงการหลีกเลี่ยงการทำงานหนัก เช่น การพายเรือหรือถ่อเรือ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้แรงและความอดทนสูง
ในสมัยก่อน การพายและการถ่อเรือเป็นสัญลักษณ์ของการทำงานหนักและการแบกรับภาระ ซึ่งสะท้อนถึงหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องใช้ความมานะบากบั่น การที่สุภาษิตนี้ใช้คำว่า “พาย” และ “ถ่อ” จึงเป็นการสื่อถึงงานที่ยากและเหน็ดเหนื่อย ในขณะที่การกินอยู่กลับถูกมองว่าเป็นเรื่องง่ายหรือเป็นการหาความสุขให้ตัวเอง
สุภาษิตนี้จึงใช้ในการกล่าวถึงคนที่เก่งในเรื่องที่สบายและง่ายสำหรับตัวเอง แต่เลี่ยงงานหนักหรือการทำเพื่อผู้อื่น โดยมีนัยว่าบุคคลนี้เป็นคนขี้เกียจหรือไม่ยอมรับผิดชอบหน้าที่ที่เหนื่อยยาก
กล่าวคือมาจากการเปรียบเปรยถึงบุคคลที่โดดเด่นในเรื่องการหาความสุขให้ตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องการกินอยู่ที่สะดวกสบาย แต่มักเลี่ยงหรือละเลยงานหนักหรือความรับผิดชอบที่ต้องใช้แรงและความพยายาม วลีนี้สะท้อนถึงบุคคลที่เก่งเฉพาะในสิ่งที่ง่ายและเป็นประโยชน์ต่อตนเอง แต่หากเป็นงานที่ต้องใช้แรงหรือทำเพื่อผู้อื่นแล้ว กลับไม่ยอมสู้หรือทุ่มเท เหมือนกับที่เปรียบว่า “การกินการอยู่” นั้นใครก็ไม่เก่งสู้เท่าเลย แต่ “การพายการถ่อ” กลับไม่ยอมพยายามสักนิด
อย่างไรก็ตาม สุภาษิตนี้น่าจะถูกพูดถึงโดยประชาชนทั่วไปในเชิงเปรียบเปรยว่า บุคคลที่ทำเรื่องสบาย ๆ ได้เก่ง แต่ไม่เอาการเอางานหรือไม่ยอมเหน็ดเหนื่อยกับภาระหน้าที่ที่ต้องใช้แรง หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ
ตัวอย่างการใช้สุภาษิตนี้
- ในครอบครัวหนึ่ง พ่อบ้านชอบนั่งกินและนอนเล่นอย่างสบายใจ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องช่วยทำงานหนักหรือช่วยขนของกลับบ้าน พ่อบ้านกลับหลีกเลี่ยงทุกครั้ง (สะท้อนถึงการทำแต่เรื่องสบาย แต่เลี่ยงการทำงานหนัก)
- เมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร นายดำจะรีบตรงเข้ามานั่งที่โต๊ะและทานอาหารเต็มที่ แต่เมื่อถึงเวลาทำงาน เขามักจะแอบหลบและปล่อยให้คนอื่นทำ (เปรียบเปรยคนที่ชอบกิน แต่ไม่เอางาน)
- ในวันหยุดยาว สมชายเลือกที่จะนอนดูทีวีทั้งวัน และไม่คิดช่วยงานบ้านเลย แม้คนในบ้านจะขอความช่วยเหลือ แต่เขาก็ทำเพียงนอนต่อ (พฤติกรรมที่ไม่ยอมช่วยเหลือใครนอกจากหาความสบายให้ตัวเอง)
- เพื่อนร่วมงานของเธอมีพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัว ชอบกินและสบายใจได้เมื่อรับผลประโยชน์ แต่เมื่อมีงานยากหรือต้องทำงานหนักกลับหลบหนี (สะท้อนคนที่รักความสบายแต่ไม่ช่วยเหลือใคร)
- ในหมู่เพื่อนบ้าน เมื่อมีงานบุญ นายพันจะไปช่วยกินเท่านั้น แต่เมื่อถึงเวลาช่วยจัดเก็บหรือต้องใช้แรง เขามักจะแอบหนีและหายตัวไป (การทำเฉพาะเรื่องที่สบายและเลี่ยงงานยาก)
รู้จักสำนวน, สุภาษิต, อื่น ๆ ได้ที่ goodproverb.com
อ้างอิงความหมายจาก Blockdit [Blue Story]