คำพังเพยผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง

รู้จักคำพังเพยผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง ที่มาและความหมาย

คำพังเพยไทยหมวดหมู่ ผ. ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง

ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง หมายถึง

คำพังเพย “ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง” หมายถึง การแบ่งบทบาทในครอบครัวที่สามีเป็นผู้นำและออกหาเลี้ยงครอบครัว ส่วนภรรยาทำหน้าที่สนับสนุนและทำงานบ้าน เปรียบเสมือนช้างสองตัวลากซุง ตัวหน้าคือตัวนำทาง (ช้างเท้าหน้า) ตัวหลังคือตัวประคองและเดินตาม (ช้างเท้าหลัง) ทั้งสองต้องทำงานร่วมกัน จึงไปถึงจุดหมายได้สำเร็จอย่างราบรื่น กล่าวคือ “การที่ผู้ชายต้องเป็นผู้นำหัวหน้าคอบครัว ส่วนผู้หญิงเป็นผู้คอยสนับสนุน” นั่นเอง

ที่มาและความหมายผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง

ที่มาของคำพังเพย

มาจากการลากซุงของช้าง โดยคำพังเพยนี้ไม่ได้หมายถึงเท้าคู่หน้าของช้างแต่อย่างใด แต่หมายถึง ช้างทั้งตัวซึ่งใช้ลักษณะนาม “ตัว” เพื่อให้เข้าใจง่ายและไม่สับสน

คำพังเพยนี้มีที่มาจากการนำช้างสองตัวมาร่วมลากซุง ซึ่งสามารถทำได้สองวิธี คือ การลากเคียง และการลากต้อย

  • การลากเคียง คือ การผูกช้างทั้งสองตัวให้ยืนคู่กัน ซึ่งต้องมีเส้นทางเดินกว้างพอที่ช้างสองตัวจะเดินเคียงกันได้ ข้อดีคือช้างทั้งสองออกแรงเท่า ๆ กัน จึงเป็นที่มาของสำนวนไทยอีกสำนวนหนึ่งว่า “ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กัน”
  • การลากต้อย คือ การผูกช้างโดยให้ช้างตัวหนึ่งอยู่ด้านหน้า เรียกว่าช้างเท้าหน้า และช้างอีกตัวอยู่ด้านหลัง เรียกว่าช้างเท้าหลัง วิธีนี้เหมาะกับพื้นที่แคบหรือรก เชือกที่ผูกจะไม่ลอดใต้หว่างขา แต่ใช้เชือกสองเส้นจากไหล่ช้างตัวหน้า เพื่อควบคุมช้างตัวหลังให้เดินตามเท่านั้น ไม่สามารถเถลไถลออกนอกทางได้ สำนวนไทยที่มาจากวิธีนี้คือ “เดินตามกันต้อย ๆ”

นอกจากนี้ การผูกช้างแบบลากต้อยยังมีประโยชน์ในการฝึกช้างใหม่หรือช้างดื้อ ให้เชื่อฟังและเดินตามได้ง่าย

ดังนั้น คำว่าช้างเท้าหน้า จึงหมายถึง ช้างตัวที่เดินนำหน้าทำหน้าที่เป็นผู้นำ ส่วนช้างเท้าหลังคือช้างที่สนับสนุนและเดินตาม ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่นนั่นเองครับ

คำพังเพยนี้จึงเปรียบกับการทำงานร่วมกันของคนสองเพศในครอบครัวหรือสังคม โดยผู้ชายมักเป็นผู้นำทางหรือออกหน้า ชี้แนะแนวทาง ส่วนผู้หญิงคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นและมั่นคงในครอบครัว เหมือนช้างเท้าหน้านำทาง และช้างเท้าหลังเดินตามประคอง ไม่ให้เสียการทรงตัว

ตัวอย่างการใช้คำพังเพย

  • ชาติบ้านใกล้เรือนเคียงเดินเคียงคู่ เสริมกำลังซึ่งกันและกัน: ตัวอย่างผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง (แสดงให้เห็นว่าประเทศเพื่อนบ้านคอยสนับสนุนกัน ทำงานร่วมกันอย่างมั่นคงและราบรื่นเหมือนผู้นำกับผู้สนับสนุน)
  • อาทิตย์วางแผนการก่อสร้างบ้านด้วยความรอบคอบ ชี้แนวทางงานใหญ่และตัดสินใจเรื่องสำคัญ ส่วนมาริสาเตรียมวัสดุ ควบคุมคนงาน และจัดการรายละเอียดทุกขั้นตอน นี่แหละตัวอย่างของผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง (แสดงให้เห็นว่าการนำทางและการสนับสนุนต้องทำงานร่วมกันจึงสำเร็จได้)
  • ธนาออกแบบกลยุทธ์และชี้แนวทางโครงการใหญ่ ส่วนมณฑิราเตรียมข้อมูล ตรวจสอบรายละเอียด และคอยจัดการสิ่งเล็กน้อยให้ลงตัว ตามแนวชีวิตผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง (แสดงให้เห็นว่าการนำทางและการสนับสนุนที่รอบคอบ ทำให้การทำงานราบรื่นและมีประสิทธิภาพ)
  • ฝ่ายชายวางแผนจัดการงานใหญ่และตัดสินใจเรื่องสำคัญ ส่วนฝ่ายหญิงเตรียมอาหาร ดูแลลูก และจัดการเรื่องความเรียบร้อยภายในบ้าน นี่แหละตัวอย่างของผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง (แสดงให้เห็นว่าผัวเมียช่วยกันแบ่งเบาภาระ ทำให้ชีวิตครอบครัวราบรื่นและลงตัว)
  • ผู้นำตัดสินใจชี้แนวทาง ฝ่ายสนับสนุนเดินตามเสริมแกร่ง ยืนยันโมเดลผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง (แสดงให้เห็นว่าการนำทางและการสนับสนุนต้องประสานกันอย่างราบรื่น เหมือนการเมืองที่ผู้นำตัดสินใจและทีมสนับสนุนทำงานควบคู่)