สุภาษิตไทยหมวดหมู่ ก. แก่มะพร้าว เฒ่ามะละกอ
แก่มะพร้าว เฒ่ามะละกอ หมายถึง
สุภาษิต “แก่มะพร้าว เฒ่ามะละกอ” หมายถึง คนที่มีอายุมาก แต่กลับไม่มีวุฒิภาวะ ความคิด หรือคุณสมบัติที่สมกับวัย พูดหรือกระทำสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์ ขาดความลุ่มลึก ไม่เป็นที่เคารพนับถือ แม้จะดูเป็นผู้ใหญ่ภายนอกก็ตาม เปรียบเสมือนมะพร้าวที่ดูแก่แต่ไม่มีน้ำ หรือมะละกอที่แก่แต่เน่า ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง สื่อถึงผู้ใหญ่ที่ขาดคุณค่าในตัวตน ทั้งวาจาและการกระทำ กล่าวคือ “ผู้ที่มีอายุมากแต่ไม่มีแก่นสาร” นั่นเอง

ที่มาของสุภาษิต
มาจากการเปรียบเปรยพืชผลในครัวเรือนที่คนไทยโบราณคุ้นเคยเป็นอย่างดี คื มะพร้าว และมะละกอ ซึ่งทั้งสองชนิดเมื่อ “แก่” แล้ว หากไม่มีคุณภาพ เช่น มะพร้าวแก่แต่น้ำเสีย หรือมะละกอเฒ่าแต่เน่า ก็จะไม่มีประโยชน์ ไม่น่ารับประทาน และนำไปใช้ไม่ได้จริง
จึงนำมาเปรียบกับคนที่มีอายุหรือดูภายนอกว่าโตแล้ว แต่กลับไม่มีวุฒิภาวะ หรือไม่มีคุณค่าในความคิด การกระทำ และการดำรงตน ทำตัวไม่เหมาะสมกับวัย ไม่เป็นตัวอย่างที่ดี หรือขาดสาระในคำพูด
สุภาษิตนี้จึงใช้เตือนหรือเหน็บแนม คนที่แก่แต่ “ไม่มีแก่น” หรือพูดง่าย ๆ ว่า “แก่แต่เก้อ” นั่นเอง
ตัวอย่างการใช้สุภาษิต
- ลุงชัยชอบพูดจาสั่งสอนคนอื่น ทั้งที่ตัวเองไม่เคยทำตามสิ่งที่พูดเลย หลานเลยแอบบ่นว่า “เป็นซะอย่างนี้แหละ แก่มะพร้าว เฒ่ามะละกอ” (อายุมากแต่ไม่มีวุฒิภาวะ ไม่มีสาระในคำพูดหรือการกระทำ)
- แม้จะอายุเข้าเลขห้าแล้ว แต่นายทวีเล่นพนัน ดื่มเหล้า ไม่ทำงาน คนในหมู่บ้านจึงพูดกันว่า “ดูแล้วก็แค่แก่มะพร้าว เฒ่ามะละกอ” (แก่เพียงภายนอก แต่ไม่มีความรับผิดชอบหรือความน่าเคารพ)
- พี่แก้วอายุเยอะแล้ว แต่ยังชอบพูดนินทา ด่าคนอื่นเสียงดังหน้าบ้านทุกวัน เพื่อนบ้านจึงพากันส่ายหน้าและพูดว่า “แบบนี้แหละ แก่มะพร้าว เฒ่ามะละกอ” (ใช้วิจารณ์คนที่มีอายุแต่ทำตัวไม่เหมาะสมกับวัย)
- ในที่ประชุม เขาชอบยกอายุมาข่มคนอื่น แต่กลับเสนออะไรไม่ได้เรื่องเลย รุ่นน้องจึงแอบพูดว่า “ผู้ใหญ่บางคนก็เป็นแค่แก่มะพร้าว เฒ่ามะละกอ” (ดูมีอาวุโสแต่ขาดคุณภาพ ความคิด หรือภาวะผู้นำ)
- แม่พูดกับลูกว่า “ลูกจำไว้นะ คนเราจะอายุเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญ ถ้าไม่มีความคิด ไม่มีน้ำใจ ก็ไม่ต่างจากแก่มะพร้าว เฒ่ามะละกอ” (ใช้เตือนให้รู้ว่าความแก่ควรมาพร้อมวุฒิภาวะ ไม่ใช่แค่ตัวเลข)