สุภาษิตชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้

รู้จักสุภาษิตชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ที่มาและความหมมาย

สุภาษิตไทยหมวดหมู่ ช. ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้

ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ หมายถึง

สุภาษิต “ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้” หมายถึง การคล้อยตามผู้ที่มีอำนาจมากกว่า โดยที่ทำเพราะกลัวหรือต้องการประจบ ไม่ได้ทำตามเพราะมีความคิด ความเห็น หรือความต้องการที่จะทำในสิ่งนั้น เปรียบเสมือนเมื่อผู้มีอำนาจบอกว่าสิ่งใดเป็นอะไร จะชี้นกก็ต้องเป็นนก จะชี้ไม้ก็ต้องเป็นไม้ ห้ามขัด ผู้น้อยก็ต้องเห็นตามไปด้วย แม้ว่าความจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น สุภาษิตนี้สะท้อนถึงระบบที่อำนาจอยู่เหนือเหตุผล หรือการที่บางคนต้องยอมตามเพื่อความอยู่รอด กล่าวคือ “ไม่ว่าผู้มีอำนาจจะว่าอย่างใด ผู้น้อยก็ต้องคล้อยตามไปอย่างนั้นเพราะกลัวหรือประจบ” นั่นเอง

ที่มาและความหมายชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้

ที่มาของสุภาษิต

มาจากสำนวนสุภาษิตจีนโบราณ “指鹿为马” (จื่อลู่เหวยหม่า) หรือ “ชี้กวางเป็นม้า” ซึ่งมีต้นกำเนิดจากยุคราชวงศ์ฉิน เมื่อจ้าวเกา (赵高) ขุนนางผู้มีอำนาจต้องการทดสอบความภักดีของข้าราชบริพาร จึงนำกวางมาตัวหนึ่งแล้วบอกจักรพรรดิว่ามันคือม้า ขุนนางที่กลัวอำนาจของจ้าวเกาจึงต้องคล้อยตาม แม้รู้ว่าคำพูดนั้นผิด

แนวคิดนี้สะท้อนถึง การใช้อำนาจกดดันให้คนยอมรับสิ่งที่ไม่จริง หรือการที่ผู้น้อยต้องเห็นด้วยกับผู้มีอำนาจ แม้จะไม่เป็นความจริง

เมื่อแนวคิดนี้แพร่เข้าสู่สังคมไทยก็เกิดสุภาษิต “ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้” ซึ่งมีความหมายในลักษณะเดียวกัน โดยสะท้อนถึงระบบสังคมที่ผู้น้อยต้องเชื่อฟังคำของผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจ แม้ว่าสิ่งนั้นจะผิดก็ตาม อาจเกิดจากความกลัว หรือเพราะต้องการเอาใจเพื่อประโยชน์ส่วนตัว

สุภาษิตนี้จึงเป็นคำเตือนเกี่ยวกับ อิทธิพลของอำนาจและการที่ผู้คนต้องคล้อยตามโดยไม่กล้าคัดค้าน แม้บางครั้งความจริงจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ตาม

ตัวอย่างการใช้สุภาษิต

  • แม้จะมีหลักฐานชัดเจนว่าโครงการนี้มีการทุจริต แต่ข้าราชการทุกคนก็ยังต้องกล่าวตามคำสั่งของผู้มีอำนาจว่าสะอาดโปร่งใส นี่แหละชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ (ผู้น้อยต้องคล้อยตามผู้มีอำนาจ แม้ความจริงจะไม่เป็นเช่นนั้น)
  • ในที่ประชุม ไม่มีใครกล้าแย้งเจ้านายเลย แม้ว่าแผนงานของเขาจะมีจุดบกพร่อง ทุกคนก็ยังต้องพยักหน้าเห็นด้วยชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ เพราะกลัวจะมีปัญหากับหัวหน้า (ความเกรงใจอำนาจ ทำให้ไม่มีใครกล้าคัดค้าน)
  • เมื่อลูกค้าใหญ่บอกว่าสินค้านี้เป็นของแท้ แม้ว่าจะเห็นกันชัด ๆ ว่าของปลอม พนักงานก็ยังต้องรับคำชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัท (บางครั้งคนต้องยอมตามแม้รู้ว่าไม่ถูกต้อง)
  • กานต์บ่นกับเพื่อนว่า “ทำไมอาจารย์พูดผิดแต่ทุกคนก็ยังพยักหน้าเห็นด้วย” พิมพ์ยิ้มก่อนตอบว่า “เพราะอาจารย์เป็นคนให้คะแนนไง ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ไม่เห็นด้วยก็เสี่ยงคะแนนหาย” (บางครั้งคนต้องคล้อยตามอำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง)
  • นนท์พูดกับพี่ชายว่า “ผู้จัดการสั่งให้ทุกคนสนับสนุนโปรเจกต์นี้ ทั้งที่มันมีปัญหาเยอะมาก” พี่ชายถอนหายใจก่อนตอบว่า “ก็เพราะ ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ไง ใครจะกล้าขัดคำสั่ง” (บางคนต้องคล้อยตามเพราะไม่อยากมีปัญหากับผู้มีอำนาจ)