สำนวนไทยหมวดหมู่ ต. ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ หมายถึง
สำนวน “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ” หมายถึง การทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่สิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ ใช้ทรัพยากรหรือแรงกายแรงใจไปมาก แต่ผลที่ได้กลับไม่มีคุณค่า หรือไม่เกิดผลตอบแทนใด ๆ เปรียบเทียบกับการตำน้ำพริก (ซึ่งใช้เวลาและแรง) แล้วเอาไปละลายในแม่น้ำกว้างใหญ่ ผลสุดท้ายคือน้ำพริกหายไปโดยไร้ร่องรอย ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย กล่าวคือ “การลงทุนไปโดยได้ผลประโยชน์ไม่คุ้มทุน, การใช้จ่ายทรัพย์ในทางที่ไม่เกิดประโยชน์, การเสียทรัพย์จำนวนมากไปโดยไม่ได้ประโยชน์อะไร” นั่นเอง

ที่มาของสำนวน
สำนวนนี้มาจากภาพเปรียบเทียบทางพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของคนไทยสมัยก่อน ที่เมื่อตำน้ำพริกเสร็จแล้ว (ซึ่งต้องใช้แรงและเวลาพอสมควร) หากนำไปละลายในแม่น้ำ ก็เปลืองแรงโดยไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ เพราะน้ำพริกจะจางหายไปกับสายน้ำทันที
ต่อมา สำนวนนี้จึงกลายเป็นคำพูดเปรียบเปรยถึงการลงทุนลงแรง ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างตั้งใจ แต่ผลลัพธ์กลับไร้ค่า ไร้ประโยชน์ สูญเปล่าในที่สุด มักใช้ทั้งในเรื่องงาน ความสัมพันธ์ หรือการใช้ทรัพยากร ที่ “ทุ่มเท” ไปมาก แต่ไม่เห็นผลลัพธ์กลับคืน
ตัวอย่างการใช้สำนวน
- บริษัทลงทุนงบโฆษณาออนไลน์ก้อนใหญ่ แต่ไม่มีการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย สุดท้ายยอดขายไม่กระเตื้องเลย เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ (ใช้เงินและพลังไปมาก แต่ไม่ได้ผลตอบแทนอะไรกลับมา)
- พี่หน่อยให้เงินลูกชายไปเรียนพิเศษทุกสัปดาห์ แต่เขากลับเอาเวลาไปเล่นมือถือในห้องเรียน แบบนี้ก็แค่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ (เสียเงิน เสียเวลา แต่ผลลัพธ์ไม่คุ้มค่า)
- ฉันนั่งทำรายงานทั้งคืน หาข้อมูลละเอียดมาก แต่สุดท้ายหัวหน้าบอกว่าไม่ต้องใช้แล้ว รู้สึกเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเลย (ทุ่มเทแรงงานไปมาก แต่ถูกทิ้งแบบไร้ค่า)
- แม่หิ้วกับข้าวไปฝากญาติทางโน้นทุกเดือน ทั้งที่เขาไม่เคยใส่ใจหรือดูแลตอบกลับเลย แบบนี้ก็เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ (ให้ไปด้วยน้ำใจ แต่ไม่เคยได้ความใส่ใจตอบกลับ)
- หน่วยงานราชการบางแห่งใช้งบประมาณจัดงานใหญ่โต แต่ไม่มีคนเข้าร่วม กิจกรรมไม่มีประโยชน์ สุดท้ายก็แค่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ (ใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองโดยไม่เกิดผลที่ควรจะเป็น)
สำนวนที่ความหมายคล้ายกัน
- ขี่ช้างจับตั๊กแตน หมายถึง: การลงทุนหรือใช้ทรัพยากรที่มากเกินไปสำหรับสิ่งที่ได้กลับมาน้อยหรือไม่คุ้มค่า