Tag: คำพังเพยไทย ฝ.

  • รู้จักคำพังเพยใฝ่ร้อนจะนอนเย็น ใฝ่เย็นจะดิ้นตาย ที่มาและความหมาย

    รู้จักคำพังเพยใฝ่ร้อนจะนอนเย็น ใฝ่เย็นจะดิ้นตาย ที่มาและความหมาย

    คำพังเพยไทยหมวดหมู่ ฝ. ใฝ่ร้อนจะนอนเย็น ใฝ่เย็นจะดิ้นตาย ใฝ่ร้อนจะนอนเย็น ใฝ่เย็นจะดิ้นตาย หมายถึง คำพังเพย “ใฝ่ร้อนจะนอนเย็น ใฝ่เย็นจะดิ้นตาย” หมายถึง ถ้าอยากมีชีวิตสบาย ต้องขยันทำงานและอดทนกับความลำบาก แต่ถ้าเกียจคร้านและอยากเอาแต่สบาย ก็จะประสบความยากลำบากหรือจนลง เปรียบเสมือนเหมือนคนที่อดทนทำงานหนักในความร้อน (ใฝ่ร้อน) เพื่อจะได้พักผ่อนสบายในที่เย็น (นอนเย็น) แต่ถ้าเกียจคร้านและอยากเอาสบายตั้งแต่ต้น (ใฝ่เย็น) จะพบความทุกข์และลำบาก (ดิ้นตาย) กล่าวคือ “คนที่ขยันและทำงานหนักจะมีชีวิตที่สบายในภายหลัง แต่คนที่ขี้เกียจจะต้องพบกับความลำบากในอนาคต, ถ้าอยากสบายต้องขยันทำงาน ถ้าเกียจคร้านเอาแต่สบายจะลำบากยากจน” นั่นเอง ที่มาของคำพังเพย มาจากวิถีชีวิตและการทำงาน ซึ่งต้องพึ่งพาความขยันและความอดทนในการดำรงชีวิต โดยคนขยันทำงานลำบากแต่ต้น (ใฝ่ร้อน) โดยเฉพาะชาวนา ชาวไร่ หรือผู้ประกอบอาชีพที่ต้องทำงานกลางแดดและสภาพอากาศร้อนจัด เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต เช่น การเพาะปลูก เก็บเกี่ยว หรือทำงานหนักในหน้าร้อนเพื่อจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตและพักผ่อนสบายในฤดูฝนหรือยามเย็น ส่วนคนขี้เกียจไม่ทำงาน ในทางตรงข้ามคนที่เกียจคร้านหรืออยากเอาสบายตั้งแต่ต้น (ใฝ่เย็น) ไม่ยอมทำงานหรือเตรียมตัวเพื่ออนาคต จะพบกับความยากลำบากและทุกข์ทรมาน เพราะไม่มีผลผลิตหรือทรัพยากรใดรองรับชีวิตของตน เช่น เมล็ดพันธุ์ไม่ได้หว่านก็ไม่ได้ข้าวกิน หรือไม่ทำงานในหน้าร้อนก็ไม่มีของใช้, เงินและอาหารเพียงพอ ทำให้ชีวิตประสบความลำบากและต้องดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด คำพังเพยนี้สะท้อนความจริงในธรรมชาติของชีวิต ว่า…

  • รู้จักคำพังเพยฝนตกอย่าเชื่อดาว ที่มาและความหมาย

    รู้จักคำพังเพยฝนตกอย่าเชื่อดาว ที่มาและความหมาย

    คำพังเพยไทยหมวดหมู่ ฝ. ฝนตกอย่าเชื่อดาว ฝนตกอย่าเชื่อดาว หมายถึง คำพีงเพย “ฝนตกอย่าเชื่อดาว” หมายถึง อย่าไว้วางใจใครหรืออะไรจนเกินไป หรืออย่าไว้ใจและเชื่อมั่นสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป เพราะบางอย่างอาจจะผิดพลาดได้ เหมือนเวลาฝนจะตก เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นอย่าไปพึ่งพาคำทำนายหรือสิ่งที่ไม่แน่นอน อย่างดวงดาว เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในอำนาจของเรา กล่าวคือ “การอย่าไว้ใจใคร หรือสิ่งใดที่เราไม่อาจกำหนดได้, มักใช้คู่กับ มีเมียสาว อย่าเชื่อแม่ยาย เป็นฝนตกอย่าเชื่อดาว มีเมียสาวอย่าเชื่อแม่ยาย” นั่นเอง ที่มาของคำพังเพย มาจากการสังเกตสภาพอากาศคนของสมัยก่อน ซึ่งเชื่อว่าดวงดาวบนท้องฟ้าบอกสภาพฟ้าได้ หากมีดาวเต็มท้องฟ้า หมายถึงฟ้าเปิด ไม่มีเมฆ จึงคิดว่าฝนไม่น่าจะตก แต่ในความเป็นจริง ฝนอาจตกลงมาได้โดยไม่คาดคิด จึงเกิดเป็นคำพังเพยนี้เพื่อเตือนว่า อย่าไว้ใจสิ่งที่เราไม่อาจควบคุมหรือคาดเดาได้ คำสร้อยที่ต่อประโยคนี้ว่า “มีเมียสาวอย่าไว้ใจแม่ยาย” สื่อความหมายเชิงเปรียบเทียบว่า แม้ชายหญิงจะตกลงสมรสกันแล้ว แต่แม่ยายอาจเปลี่ยนใจหากเห็นคนอื่นที่ดีกว่า จึงเตือนให้ระวังสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ตัวอย่างการใช้คำพังเพย