Tag: สำนวนไทย ก.
-
รู้จักสำนวนกิ้งก่าได้ทอง ที่มาและความหมาย
สำนวนไทยหมวดหมู่ ก. กิ้งก่าได้ทอง กิ้งก่าได้ทอง หมายถึง สำนวน “กิ้งก่าได้ทอง” หมายถึง คนที่เคยยากลําบาก หรือไม่เคยมีอะไรมาก่อน พอประสบความสําเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือได้รับคําสรรเสริญเยินยอก็วางตนเหมือนอยู่เหนือผู้อื่น ยกตนข่มท่าน ลืมฐานะ เดิมของตน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยเป็นมาก่อน เช่น การทำตัวโอ้อวด ทำเกินตัว หรือแสดงออกอย่างเกินความพอดีเมื่อได้ครอบครองสิ่งที่ตนเองไม่เคยมีมาก่อน สำนวนนี้จึงใช้ในบริบทของการวิพากษ์วิจารณ์คนที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหลังจากได้รับสิ่งที่เหนือความสามารถหรือเกินฐานะของตน กล่าวคือ “คนที่ได้ลาภยศแล้วทะนงตนลืมฐานะเดิม” นั่นเอง ที่มาของสำนวน มาจากนิทานเรื่องมโหสถ ชาดก เรื่องราวของกิ้งก่าได้ทองนั้นไม่ได้กล่าวถึงกิ้งก่าโดยทั่วไปใน ธรรมชาติ แต่ได้กล่าวถึงกิ้งก่าแสนรู้ตัวหนึ่ง เป็นเรื่องราวครั้งที่พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็น “มโหสถ” บัณฑิต เจ้าปัญญา รับราชการในพระเจ้าวิเทหราช ผู้เป็นราชาแห่งเมืองมิถิลา เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งพระเจ้าวิเทหราชเสด็จประพาสอุทยาน กับมโหสถ มีกิ้งก่าตัวหนึ่งเห็นทั้งคู่เดินมาด้วยกัน ก็ไต่ลงจากเสา มาทําท่า หมอบกราบอยู่เบื้องหน้าพระราชา เมื่อพระราชาเห็นดังนั้นจึงตรัสถามมโหสถว่ากิ้งก่าทําอะไร มโหสถจึงตอบไปว่ากิ้งก่าตัว นี้มาถวายบังคม จะถวายตัวแก่พระราชา พระเจ้าวิเทหราชเห็นว่ากิ้งก่าตัวนั้นเป็นกิ้งก่าแสนรู้ จึงตรัสว่าควรจะให้สิ่งตอบแทนกับมัน มโหสถจึงแนะนําให้ พระราชาพระราชทานเนื้อให้มันกิน พระราชาจึงรับสั่งให้ราชบุรุษผู้เฝ้าอุทยานซื้อเนื้อมูลค่าครึ่งมาสก…
-
รู้จักสำนวน ก ข ไม่กระดิกหู ที่มาและความหมาย
สำนวนไทยหมวดหมู่ ก. ก ข ไม่กระดิกหู ก ข ไม่กระดิกหู หมายถึง สำนวน “ก ข ไม่กระดิกหู” หมายถึง คนที่ไม่มีความรู้หรือความเข้าใจในเรื่องที่ควรจะรู้อยู่แล้ว หรือเรื่องพื้นฐานที่คนทั่วไปควรจะเข้าใจได้ สำนวนนี้บ่งบอกถึงการที่คนไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่ควรจะเข้าใจได้ เหมือนกับการที่ไม่สามารถเข้าใจตัวอักษรหรือความรู้ที่ง่ายที่สุด เช่น ตัวอักษร “ก ข” ของภาษาไทย กล่าวคือ “ผู้ที่เรียนหนังสือแล้วไม่รู้ อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้” นั่นเอง สำนวนนี้ยังสามารถสื่อถึงการขาดพื้นฐานความรู้ในด้านใดด้านหนึ่ง เช่น ในการทำงาน การศึกษา หรือการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ควรจะรู้มาก่อนแล้ว แต่กลับไม่สามารถเข้าใจได้เลย สะท้อนถึงความด้อยความรู้หรือการไม่พยายามที่จะเรียนรู้ ที่มาของสำนวน มาจากความเปรียบเปรยเกี่ยวกับความรู้ขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรจะรู้ เช่น การอ่านออกเขียนได้ และการรู้จักตัวอักษรในภาษาไทยที่เริ่มต้นด้วย “ก ข” ซึ่งถือเป็นพื้นฐานแรกในการเรียนรู้ภาษาไทย เมื่อพูดถึงการ “ไม่กระดิกหู” นั้นเป็นการบอกว่าคนคนนั้นไม่สามารถเข้าใจหรือรับรู้สิ่งที่ถูกพูดถึงได้เลย แม้แต่ในระดับพื้นฐานที่สุด สำนวนนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อใช้บรรยายถึงบุคคลที่ขาดความรู้หรือความเข้าใจแม้ในเรื่องที่ควรจะเป็นพื้นฐาน เช่น การอ่าน การเขียน หรือความรู้ในเรื่องสำคัญๆ ที่ควรรู้ สำนวนนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการมีความรู้พื้นฐาน หากคนใดขาดความรู้ในระดับพื้นฐานหรือไม่เข้าใจในสิ่งที่ควรจะเป็นเรื่องง่าย…
-
รู้จักสำนวนกบเลือกนาย ที่มาและความหมาย
สำนวนไทยหมวดหมู่ ก. กบเลือกนาย กบเลือกนาย หมายถึง สำนวน “กบเลือกนาย” หมายถึง การเลือกผู้ปกครองหรือผู้นำใหม่ด้วยความหวังว่าจะได้สิ่งที่ดีกว่า แต่กลับได้ผู้นำที่แย่กว่าเดิมหรือบุคคลที่ต้องการเปลี่ยนผู้บังคับบัญชาบ่อย ๆ ทำให้การงานหรืออาชีพของตนไม่มั่นคงยั่งยืน สุภาษิตนี้ใช้เพื่อเตือนสติในเรื่องการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะบางครั้งการเปลี่ยนแปลงอาจนำไปสู่สิ่งที่แย่ลงกว่าที่เป็นอยู่ กล่าวคือ “ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนผู้บังคับบัญชาอยู่เรื่อย ๆ” นั่นเอง ที่มาของสำนวน มีที่มาจากนิทานอีสปเรื่องกบเลือกนายหรือกบปราถนาราชา ที่เล่าถึงกลุ่มกบที่ต้องการมีผู้นำ วันหนึ่งพวกกบจึงขอร้องให้เทพเจ้าส่งนายมาให้พวกเขา เทพเจ้าจึงส่งท่อนไม้ลงมาเป็นผู้นำ แต่กบกลับไม่พอใจเพราะเห็นว่าท่อนไม้ไม่สามารถทำอะไรได้เลย จากนั้นพวกกบจึงขอผู้นำใหม่ที่เข้มแข็งกว่า เทพเจ้าจึงส่งนกกระสาลงมาเป็นนาย ซึ่งในที่สุดนกกระสาก็เริ่มจับกบกินเป็นอาหาร ทำให้กบเสียใจในสิ่งที่ตัวเองเลือกไป เรื่องนี้สะท้อนถึงการที่บางคนไม่พอใจกับสิ่งที่ตนเองมีอยู่แล้วต้องการสิ่งที่ดีกว่า แต่กลับลงเอยด้วยสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม สุภาษิตนี้ใช้เป็นคำเตือนให้ระมัดระวังในการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดๆ เพราะการเลือกสิ่งใหม่อาจไม่ได้นำไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเสมอไป ตัวอย่างการใช้สำนวน สำนวนที่ความหมายคล้ายกัน
-
รู้จักสำนวนกระโถนท้องพระโรง ที่มาและความหมาย
สำนวนไทยหมวดหมู่ ก. กระโถนท้องพระโรง กระโถนท้องพระโรง หมายถึง สำนวน “กระโถนท้องพระโรง” หมายถึง คนที่ต้องรองรับความรู้สึกหรือความต้องการของผู้อื่นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ คำสั่ง หรือความกดดันต่าง ๆ โดยไม่มีสิทธิ์โต้แย้งหรือปฏิเสธ บ่อยครั้งจะใช้กับคนที่อยู่ในสถานะที่ต้องคอยทำตามคำสั่งของทุกคน เช่น ลูกน้องในองค์กรที่ต้องรับงานจากทุกฝ่าย หรือคนที่ถูกใช้ประโยชน์จากหลายคนโดยไม่ได้รับความเคารพ กล่าวคือ “ผู้ที่ต้องรองรับภาระงานหรืออารมณ์ของผู้อื่นอยู่คนเดียว” นั่นเอง ที่มาของสำนวน มาจากการเปรียบเทียบกับภาชนะที่ใช้สำหรับการถ่ายของเสียในสมัยโบราณ ซึ่ง “กระโถน” มักวางอยู่ในที่ที่คนเดินผ่านไปมาบ่อย ๆ โดยเฉพาะในท้องพระโรง ซึ่งเป็นบริเวณที่ใช้ต้อนรับแขกหรือประชุมกัน เมื่อมีคนจำนวนมากผ่านไปมา กระโถนจึงถูกใช้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าใครจะเดินผ่านก็ตาม จึงเปรียบเปรยถึงคนที่ถูกใช้หรือได้รับคำสั่งจากทุกทิศทาง โดยไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ สำนวนนี้จึงสะท้อนถึงสภาพของคนที่ต้องรองรับอารมณ์ ความต้องการ หรือคำสั่งจากผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับกระโถนที่ถูกใช้งานตลอดเวลาในที่สาธารณะ ตัวอย่างการใช้สำนวน สำนวนที่ความหมายคล้ายกัน