สำนวนไทยหมวดหมู่ ค. คลื่นกระทบฝั่ง
คลื่นกระทบฝั่ง หมายถึง
สำนวน “คลื่นกระทบฝั่ง” หมายถึง เรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เคยเป็นที่สนใจหรือได้รับความสนใจในช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เงียบหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สะท้อนถึงธรรมชาติของเรื่องราวที่แม้จะดูรุนแรงหรือสำคัญในตอนแรก แต่สุดท้ายก็จบลงอย่างสงบ กล่าวคือ “เรื่องราวที่ครึกโครมขึ้นมาแล้วกลับเงียบหายไป” นั่นเอง

ที่มาของสำนวน
มาจากการเปรียบเปรยปรากฏการณ์ธรรมชาติของคลื่นทะเลที่เคลื่อนตัวเข้าหาฝั่งอย่างรุนแรง แต่เมื่อกระทบฝั่งแล้วกลับค่อย ๆ สลายตัวและหายไปอย่างสงบ สะท้อนถึงธรรมชาติของเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เริ่มต้นด้วยความรุนแรงหรือเป็นที่สนใจในช่วงเวลาหนึ่ง
ในสังคมมนุษย์ สำนวนนี้มักใช้กับเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจหรือเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความสนใจเหล่านั้นก็ลดลงจนเงียบหาย เช่นเดียวกับคลื่นที่แม้จะดูน่ากลัวในตอนแรก แต่สุดท้ายก็สลายไปโดยไม่มีอะไรหลงเหลือ สำนวนนี้จึงสะท้อนถึงความไม่จีรังของเรื่องราวและการเปลี่ยนผ่านของความสนใจในชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างการใช้สำนวน
- ข่าวการทะเลาะวิวาทของดาราชื่อดังที่เคยเป็นกระแสแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน ตอนนี้กลับไม่มีใครพูดถึงแล้ว เพื่อนคนหนึ่งจึงกล่าวว่า “เรื่องนี้ก็แค่คลื่นกระทบฝั่ง เดี๋ยวก็เงียบหายไปเอง” (เหตุการณ์ที่เคยเป็นกระแสแต่จางหายไปตามกาลเวลา)
- ช่วงที่มีข่าวเรื่องการปฏิรูปการศึกษา คนพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ประเด็นนี้ก็ไม่ได้รับความสนใจอีก ครูจึงกล่าวว่า “เป็นแค่คลื่นกระทบฝั่ง ทุกคนตื่นเต้นชั่วคราวแล้วก็ลืม” (การที่ประเด็นสำคัญถูกละเลยเมื่อเวลาผ่านไป)
- การประท้วงของกลุ่มชาวบ้านเรื่องการสร้างเขื่อน เริ่มต้นด้วยความรุนแรงและการเรียกร้องอย่างหนักหน่วง แต่สุดท้ายเมื่อไม่มีความคืบหน้า เรื่องก็จางหายไป เพื่อนคนหนึ่งกล่าวว่า “ประเด็นนี้เหมือนคลื่นกระทบฝั่งจริง ๆ” (การเรียกร้องที่ลดความสนใจลง)
- นายแดงทะเลาะกับเพื่อนร่วมงานเสียงดังจนเป็นที่พูดถึงในบริษัท แต่เพียงไม่กี่วันก็ไม่มีใครพูดถึงอีก หัวหน้าจึงสรุปว่า “เรื่องนี้เป็นแค่คลื่นกระทบฝั่ง เดี๋ยวก็ลืมกันหมด” (เหตุการณ์ที่ดูสำคัญแต่กลับจางหายไปเร็ว)
- ช่วงที่มีการประกาศกฎระเบียบใหม่ในหมู่บ้าน ชาวบ้านพูดถึงกันอย่างเคร่งเครียด แต่ไม่นานทุกคนก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ผู้ใหญ่บ้านจึงบอกว่า “เรื่องนี้ก็คลื่นกระทบฝั่งเหมือนทุกครั้ง ไม่มีอะไรยั่งยืน” (การเปรียบเทียบเรื่องที่ดูเหมือนสำคัญในช่วงแรกแต่สุดท้ายก็สงบลง)